แม่ร้องมิจฉาชีพฉวยโอกาสสร้างเฟซบุ๊กปลอม เอาเรื่องราวชีวิตลูกสาววัย13 ปีที่ป่วยหนักไปหากิน ให้โอนเงินเข้าบัญชีปลอม
วันนี้ (26 ก.พ.62) ผู้สื่อข่าว จ.สงขลา รายงานว่า น.ส.นิมล สังข์ปลอด อายุ 49 ปี ชาวจ.กระบี่ ได้ร้องทุกข์ผ่านผู้สื่อข่าวหลังจากที่มีคนฉวยโอกาสสร้างเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมาและบัญชีธนาคาร สำหรับบริจาคเงินมาช่วยเหลือน้องชาม อายุ 13 ปี ลูกสาวของตนที่ป่วยด้วยโรคธาลัสซีเมีย และอาการทรุดหนักเกือบเสียชีวิต และมีคนหลงเชื่อบริจาคเงินเข้าบัญชีปลอม ซึ่งเป็นการนำชีวิตของลูกสาวตนไปหากิน
น.ส.นิมล เล่าว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่าน มาลูกสาวตนอาการวิกฤตหนักและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกระบี่ แต่ด้วยฐานะครอบครัวที่ลำบากและตนซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านต้องหยุดงานมาดูแลลูกสาว ทางแม่บุญธรรมของลูกสาว จึงได้นำภาพถ่ายของน้องชาม และเรื่องราวที่ป่วยหนัก ที่ต้องถ่ายเลือดทุกเดือน เป็นมะเร็งในเม็ดเลือด และโรคภูมิแพ้ ไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ
แต่ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นกลับมีคนมาสร้างเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมา และให้โอนเงินไปเข้าบัญชีคนอื่น รวมทั้งเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในเฟซบุ๊กทั้งที่อยู่ของลูกสาวจาก จ.กระบี่ เป็น จ.เพชรบูรณ์ และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อกลับ โดยเฟซบุ๊กจริงโพสต์ในชื่อของ Thipamas Phetthongma โอนเงินผ่านบัญชีตน น.ส.นิมล สังข์ปลอด ธนาคารกรุงไทยสาขาอ่าวลึกกระบี่ หมายเลขบัญชี 818-0-3519-9 และเบอร์โทรติดต่อ 061-2166967
แต่ในเฟซบุ๊กปลอมโพสต์ในชื่อ เนยเลว(มเหศวล) โอนเงินผ่านบัญชี น.ส.เนตรนรินทร์ วิชัยแสง ธนาคารกรุงไทย สาขาเพชรบูรณ์ เลขบัญชี 614-077823-9 เบอร์โทร 094-1632889 และยังเปลี่ยนที่อยู่ในรายละเอียดของน้องชามว่าเป็นชาว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
น.ส.นิมล กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุทางแม่บุญธรรมที่เป็นคนโพสต์เฟซบุ๊กได้ไปแจ้งความไว้แล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมผู้ที่สร้างเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมา เนื่องจากเอาชีวิตและความเป็นความตายของน้องไปหากิน ที่สำคัญมีคนถูกหลอกให้โอนเงินไปแล้ว 500 บาทและน่าจะมีคนหลงเชื่อโอนเงินเข้าไปอีก
ทั้งนี้ระหว่างที่น้องชาม รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกระบี่ แต่อาการทรุดหนักและช๊อคจนแน่นิ่งไปและชีพจรก็หยุดเต้น หมอบอกว่าให้ทำใจเพราะลูกสาวเสียชีวิตแล้ว แต่ปาฏิหาริย์มีจริงไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะขณะที่ตนไปดูหน้าลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายและร้องให้จนน้ำตาหยดใส่แก้มลูกสาว
ปรากฏว่านิ้วมือของลูกค่อยๆกระดิกและรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งแพทย์เองก็แทบไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นและอาการก็ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับจนกลับมาเดินได้ และล่าสุดในวันนี้ทางโรงพยาบาลกระบี่ได้ส่งตัวมาตรวจอาการเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์หาดใหญ่อีกครั้ง และทำการรักษาน้องชามอย่างดีที่สุด