กระทรวงแรงงาน เพิ่มมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุ จ้างงานให้มีรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิต ตั้งเป้าหมาย 1 แสนคน ในปี 2562
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังการประชุมส่งเสริมการมีงานทำให้ผู้สูงอายุว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อหาแนวทางขับเคลื่อนการส่งเสริมการมีงานทำ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่กำหนด
โดยได้หารือกับภาคเอกชน ภาคภาคีเครือข่ายสังคมว่าจะร่วมกันส่งเสริมการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุได้อย่างไรบ้าง ภาคเอกชนมีตำแหน่งงานรองรับการจ้างงานไว้จำนวนเท่าไร รวมทั้งขอความร่วมมือภาคีเครือข่ายสังคมประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ผู้สูงอายุ และหน่วยงานในเครือข่ายร่วมมือกันในการส่งเสริมการมีงานของผู้สูงอายุ
ขณะเดียวกันได้ขอทราบความเห็นของหน่วยงานภาครัฐว่าจะบูรณาการภารกิจร่วมกัน ในการส่งเสริมการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุได้อย่างไรบ้าง และมีข้อเสนอแนวทางการปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุผลเป็นรูปธรรมอย่างไร
ทั้งนี้ในปี 2562 กระทรวงแรงงานได้ส่งเสริมการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ (อายุ 60-69 ปี) เป้าหมาย จำนวน 100,000 คน แบ่งเป็นผู้สูงอายุในระบบ จำนวน 20,000 คน ประกอบด้วย 1.ลูกจ้างเอกชน จำนวน 15,000 คน 2.ลูกจ้างภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจ 5,000 คน
และผู้สูงอายุนอกระบบ จำนวน 80,000 คน ประกอบด้วย 1.ส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ จำนวน 70,000 คน 2.ส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน จำนวน 10,000 คน
โดยหน่วยงานในสังกัดรับผิดชอบตามภารกิจที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานกำหนดอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุ กรมการจัดหางานส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุในอาชีพที่เหมาะสมกับวัยและประสบการณ์ การประกอบอาชีพอิสระ และเป็นศูนย์บริการจัดหางานผู้สูงอายุ
กรมพัฒนาฝีมือแรงงานส่งเสริมและพัฒนาฝีมือแรงงาน และศักยภาพของผู้สูงอายุ เพื่อให้มีทักษะที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และมีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานให้ความรู้ด้านสวัสดิการเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัยเกษียณ เสริมสร้างความรู้แก่แรงงานผู้สูงอายุ และสำนักงานประกันสังคมปรับระบบประกันสังคมให้สอดคล้องกับการจ้างงานผู้สูงอายุและออกหน่วยเคลื่อนที่ด้านสุขภาพ