สาวโพสต์ตัดพ้อไฟจากการเผาไร่อ้อย ลามไหม้สวนลำใยวอด แต่กลับถูกผู้นำท้องถิ่นปฏิเสธช่วยดับไฟ เหตุไม่ใช่เวลาราชการ
วันนี้ (27 ก.พ. 2562) โลกออนไลน์ได้เกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความ หลังจากเปลวไฟจากคนเผาไร่อ้อย ลุกลามเข้ามาในสวน จนเผาต้นลำใยเสียหายไปเกือบ 600 ต้น ขณะเดียวกันได้มีข้อความตัดพ้อไปยังผู้นำท้องถิ่น หลังไม่ให้ความร่วมมือในการช่วยดับไฟทั้งๆ ที่ไปร้องขอความช่วยเหลือเมื่อตอนที่ไฟกำลังลามมาใหม่ โดยให้เหตุผลว่าไม่ใช่เวลาราชการ
โดยผู้โพสต์ได้มีข้อความระบุว่า จุดเริ่มจากไร่อ้อย. ของคนอื่นทำให้ลำไยเราโดนเผาไปเกือบ 600 ต้น จะเรียกร้องความยุติธรรมได้ที่ไหน ถามหน่อยใครตอบได้ ไฟควรไหม้ในเวลาราชการ หรือนอกเวลาราชการ ต่อไปนี้ถ้าไฟจะไหม้บ้านหรือไร่-สวน ก็ควรภาวนาว่าจงเกิดในเวลาราชการนะ
เพราะตอนที่สวนเราไฟกำลังเข้า เราโทรหาผูใหญ่ว่าช่วยหน่อยไฟกำลังเข้าสวนลำไย ขอน้ำจาก อบต. หน่อย ได้รับคำตอบที่จุกมาก วันเสาร์-อาทิตย์ ไม่มีคนขับรถหรอก ทั้งๆ ชาวบ้านกำลังเดือดร้อน ทำให้ไร่เราเสียหายประมาณ 1,000,000.บาท ใครจะรับผิดชอบ
ไปแจ้งความ กลับเป็นว่าเดี๋ยวนี้ เวลาคนเผาอ้อยจะไม่มีใครอยู่คอยกันไฟ คอยรดน้ำเพราะกลัวกฏหมาย แต่มันจะแอบจุดแล้วทิ้งให้ไหม้เอง จะไปไหม้ไร่ใคร สวนใคร บ้านใคร ไม่สนใจ ขณะนี้มีคดีที่เผาอ้อยแล้วทิ้งปล่อยความรับผิดชอบจนไหม้บ้านคนเสียหายถึงตายก็มี แต่จับมือใครดมไม่ได้
คุยกับตำรวจเขาก็เข้าใจเรา แต่มันต้องมีหลักฐาน เช่นกล้องวงจรปิดถ่ายได้ว่ากำลังจุด สงสารตัวเองจังเลย และสงสารคนที่ได้รับชะตากรรมแบบเรา นี่หรือประเทศไทย
นอกจากนี้ผู้โพสต์ดังกล่าวยังระบุข้อความลงวันที่ 24 ก.พ. โดยเผยว่า วันนี้รีบทำระบบน้ำให้ลำไย แต่ยังไม่เสร็จได้เดินสำรวจไร่ ไม่รู้ว่ามะขามป้อมยักษ์จะตายไหม กำลังออกดอกเต็มต้น ดอกแห้งเลย เฉพาะตอนซื้อมาปลูกราคาต้นละ 1 พันบาท ตอนนี้ 4 ปีแล้ว ประมาณราคาเท่าไรดี ซื้อมา 100 ต้น หวังว่าคงไม่ตายนะ เอาใจช่วยนะมะขามป้อม แต่ไร่อ้อยที่เป็นแหล่งต้นเพลิง วันนี้ตัดเสร็จเรียบร้อยแล้วพร้อมขึ้นรถพรุ่งนี้
ทั้งนี้เมื่อเรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปทำให้มีคนเข้าไปแสดงความเห็นเห็นใจเจ้าของสวนลำใยเป็นจำนวนมาก ที่ต้องมารับกรรมในสิ่งที่ไม่ได้ก่อในครั้งนี้ พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือตรวจสอบเป็นการด่วน เพื่อจะได้ให้ความเป็นธรรมในเรื่องที่เกิดขึ้น