รายได้ไม่ใช่เล่น! นิสิตหนุ่มขายนม หาเงินเรียน รายได้เฉียด2หมื่น

วันนี้ MThai News จะพาไปรู้จักกับนิสิตหนุ่ม ผู้ที่มีความคิดไม่หยุดนิ่ง จากรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ น้องบุ๊ค วสุพล รชฏเสถียรพงษ์ อายุ 20 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะประมง…

Home / NEWS / รายได้ไม่ใช่เล่น! นิสิตหนุ่มขายนม หาเงินเรียน รายได้เฉียด2หมื่น

วันนี้ MThai News จะพาไปรู้จักกับนิสิตหนุ่ม ผู้ที่มีความคิดไม่หยุดนิ่ง จากรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ น้องบุ๊ค วสุพล รชฏเสถียรพงษ์ อายุ 20 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะประมง สาขาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หนุ่มน้อยคนนี้ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ให้ได้ทราบกันอย่างเต็มอิ่ม

‘น้องบุ๊ค’ มีความมุ่งมั่น คิดลงมือทำด้วยตนเอง ด้วยการหารายได้เสริมในวัยเรียน เป็นนิสิตขาย “นมเกษตร” เพียงใช้ความกล้า จัดสรรเวลาให้ลงตัว รายได้เฉลี่ยประมาณ 16,000-18,000 บาท ต่อเดือน เลยทีเดียว

 

IMG_6488

 

อะไรคือแรงบันดาลใจให้คิดที่จะหารายได้เสริม?

น้องบุ๊ค- วสุพล บอกกับ MThai News ว่าได้รับแรงบันดาลใจในการเป็นพ่อค้าวัยเรียน จากเพื่อนชาวแอฟริกา ตอนไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่นิวซีแลนด์

“ผมเห็นเพื่อนใช้เวลาว่างไปทำงานหารายได้เสริม จึงเกิดข้อเปรียบเทียบย้อนมองดูตัวเองตอนอยู่เมืองไทย ที่ เรียน ๆ เล่น ๆ ไปวัน ๆ ทำให้รู้สึกว่าอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องหาอะไรสักอย่างทำบ้าง”

“จึงเริ่มต้นหาช่องทางค้าขาย จุดประกายแนวคิดจากสิ่งใกล้ตัว และต้องลงทุนไม่มาก กระทั่งผุดไอเดียย้อนรำลึกถึงนมถุงที่เคยดื่มในวัยเด็ก ซึ่งมหาวิทยาลัยของผมก็มีโรงนมอยู่ใกล้ ๆ แบรนด์ นมเกษตร” ตัวผมก็เป็นนิสิต ม.เกษตรด้วยจากนั้นก็ประเดิมขายในงานเกษตรแฟร์ เป็นงานของมหาวิทยาลัย ด้วยการเอานมใส่รถเข็นเดินขายในงาน ตามจุดต่าง ๆ ตอนแรกเขาเอ่ยปากว่าอาย หลัง ๆ เริ่มปรับตัวได้ เพราะคิดว่าเป็นบทบาทหน้าที่ ทำให้กล้าขายมากขึ้น”

IMG_6463   IMG_6456

 

เมื่อเอาชนะความกล้าได้แล้ว จากนั้นมีการพัฒนาการขายหารายได้เพิ่มอย่างไร?

“ผมหาทางช่องทางตีตลาดแถวบ้านของตน(หมู่บ้านเกษตรนิเวศน์) ด้วยการลงมือทำใบปลิวแจกตามหมู่บ้าน ทำให้มีลูกค้าติดต่อให้ไปส่งนมจำนวนหนึ่ง แต่เนื่องจากคนดื่มนมไม่ค่อยบ่อยนัก ช่วงแรกจึงมีลูกค้าน้อย ผมจึงกลับมาคิดว่าแล้วจะทำอย่างไรต่อไปดี”

“ก็มาคิดว่าแถวบ้านมีตลาดสด (ตลาดริมบึง) ซึ่งตอนแรกผมไม่กล้าไปขาย เพราะในใจคิดว่าเอานมไปขายใครจะซื้อ แต่ว่ามาคิดอีกที ว่าไหนๆ ก็มาแล้ว คงต้องลองดูกันสักตั้ง ผมจึงเริ่มจากขี่รถจักรยานยนต์ขายตามร้านค้า และเอานมเกษตรใส่ถุงเดินขายในตลาด แล้วพบว่าขายได้นะ”

น้องบุ๊ค วสุพล ได้เล่าให้ MThai News ฟังต่อว่า จากที่เริ่มนำรถเข็นมาเข็นนมเกษตรขายในตลาด เคยขายที่งานเกษตรแฟร์ ต่อมาจึงเน้นขายที่ตลาดเป็นหลัก เพราะเดินขายไม่เสียค่าน้ำมัน ไม่มีเงื่อนไขเรื่องเวลา อีกทั้งลูกค้าขาจรเดินมาเจอเรา เขาก็อุดหนุน ลูกค้าก็เยอะขึ้นด้วย

“ขายวันแรกหมดเกลี้ยงร้อยกว่าถุง จึงหันมาเข็นนมเกษตรเดินขายในตลาดริมบึง เป็นหลักครับ แต่ลูกค้าเก่าก็ไม่ได้ทิ้งนะครับโทรมาสั่งผมก็ไปส่งให้”

 

IMG_6477

 

แบ่งเวลาเรียนกับการรายได้เสริมอย่างไร?

ปัญหาของการหารายได้เสริม คือเวลาเรียนหรือกิจกรรมตอนเช้า ทำให้ไม่ได้ไปขาย แต่ผมหาเวลามาขายนมเกษตร หลัก 4 วัน คือ อังคาร พฤหัสบดี เสาร์ และอาทิตย์ ซึ่งได้เริ่มขายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานอกจากจะขายนมเกษตรเพื่อหารายได้เสริมแล้ว ผมยังใช้เวลาว่างในช่วงเย็น วันละ 2 ชั่วโมง เป็นคุณครูสอนว่ายน้ำในมหาวิทยาลัยอีกด้วยครับ”

เรียกได้ว่าใช้เวลาต่อวันอย่างคุ้มค่าจริง ๆ น้องบุ๊ค วสุพล ยังได้เล่าให้ MThai News ฟังต่อว่า ช่วงแรก ๆต้องใช้ความพยายาม ความอดทนสูงมาก เพราะกำไรที่ได้มานั้นต้องใช้การรอคอย มาทีละนิดหน่อย ต้องค่อยๆ เก็บถึงจะเห็นเป็นจำนวน

“แต่ผมก็ชอบช่วงแรกๆมากนะครับ เพราะรู้สึกสนุก ท้าทาย ไม่ใช่เพราะเงินที่เป็นแรงจูงใจอย่างเดียว แต่ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำด้วย”

บางครั้งก็กลับไปมองว่าจะมี เพื่อนๆนิสิตคนใดที่ทำงานหารายได้เสริมแบบนี้บ้างนะ ในห้องเรียนมี 100 คน อาจจะมี 10 คน หรืออาจจะไม่ถึง 10 คนที่ทำงานหารายได้เสริม มันทำให้ผมรู้สึกภูมิใจที่ผมเป็นอีกคนหนึ่งในนั้น” น้องบุ๊ค วสุพล เผยให้ MThai News ฟังอย่างภาคภูมิ ด้วยน้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

 

IMG_6470

 

แต่เป็นที่น่าเสียดาย เมื่อถามถึงอนาคตจะต่อยอดธุรกิจนี้อย่าไร น้องบุ๊ค ให้คำตอบว่า

“หลังจากเรียนจบคงไม่สานต่อ เพราะคิดว่าจุดเด่นของตัวเองที่ทำให้มีลูกค้าทุกวันนี้คือความเป็นนิสิต ไปไหนจึงมีแต่คนเอ็นดู ถ้าเรียนจบแล้ว ก็ไม่สามารถกลับมาใส่ชุดนิสิตได้ คงต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการขายใหม่”

น้องบุ๊คยังกล่าวทิ้งท้ายฝากบอกเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกันที่อยากหารายได้เสริมด้วยว่า “ผมว่านิสิตทุกคนก็คงอยากหารายได้เสริมเอง แต่ติดตรงนั้นตรงนี้เยอะ ติดเรียนบ้าง กิจกรรมบ้าง ถ้าไม่มีข้ออ้างเหล่านั้น เลิกอ้างว่าไม่มีเวลา พยายามจัดสรรเวลา ตั้งใจอย่างจริงจัง ขยัน อดทน เป็นหลัก และมีความรับผิดชอบ เต็มที่กับมัน ทุกคนสามารถทำได้”

ท้ายสุดนี้ MThai News ขอเป็น กำลังใจให้กับผู้ที่ไม่ย้อท้อ ตั้งใจ ขยัน อดทน รับรองว่าชาตินี้ไม่มีจนอย่างแน่นอน…คอนเฟิร์ม!!!

 

รุ่งฤดี ฤทธิสิทธิ์  : เขียน
ธเนตร พุทธิตระกูล : ภาพ

ติดตามคอลัมน์ 108 อาชีพทำเงิน อื่น ๆ ได้ที่นี่ news.mthai.com/economy

MThai News