ประเด็นน่าสนใจ
- ก่อนหน้านี้มีการพบเห็นซากเต่าและโลมา ในพื้นที่การเกิดน้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อกลางทะเลบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง
- ผลชันสูตรซากโลมา ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7-10 วัน ทางเดินหายใจและทางเดินอาหารไม่พบคราบน้ำมัน
- ซากเต่าได้ตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 5-7 วัน ไม่พบหมายเลขไมโครชิพและแถบเหล็กระบุตัวตน ไม่พบการปนเปื้อนหรือคราบน้ำมัน
วานนี้ (30 ม.ค.65) นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยถึงกรณีพบเห็นซากเต่าและโลมา ในพื้นที่การเกิดน้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อกลางทะเลบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง ในวันที่ 30 มกราคม 2565 สัตว์แพทย์ ทช ผ่าชันสูตรซากแล้ว มีผลดังนี้
1.ซากโลมาที่พบเป็นโลมาปากขวดอินโดแปซิฟิก (indo-pacific bottlenose dolphin: Tursiops aduncus) ขนาดความยาวซากที่เหลืออยู่ 2.35 เมตร สภาพซากเน่ามาก (advanced decomposition หรือที่ระดับ 4/5)
จากสภาพซาก โลมาตัวนี้ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7-10 วัน จากการตรวจสอบ กล้ามเนื้อและผิวหนังหลุดร่อน อวัยวะหลายส่วนได้หลุดหายไปเนื่องจากผนังช่องท้องได้เปิดออกจากการเน่าตามธรรมชาติ ทางเดินอาหารพบ gastric content เล็กน้อย ตลอดทางเดินหายใจและทางเดินอาหารไม่พบสิ่งแปลกปลอม และคราบน้ำมัน อย่างไรก็ตามเนื่องจากสภาพเน่ามาก ไม่สามารถหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนได้
2.ซากเต่าทะเลที่พบเป็นเต่ากระ (Hawksbill turtle: Eretmochelys imbricata) ขนาดกระดองกว้าง 74 เซนติเมตร กว้าง 83 เซนติเมตร เพศเมีย อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ สภาพซากเน่ามาก (advanced decomposition หรือที่ระดับ 4/5) เป็นเต่าที่เกิดและโตในธรรมชาติไม่พบหมายเลขไมโครชิพและแถบเหล็กระบุตัวตน
จากการตรวจสอบ สภาพซากเต่าได้ตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 5-7 วัน เต่าทะเลมีไขมันสะสมตามช่องท้องค่อนข้างน้อย บ่งบอกการป่วยที่เรื้อรัง ตลอดทางเดินอาหารพบอาหารตามธรรมชาติเล็กน้อย ได้แก่ ปะการังอ่อน เปลือกหอย ไฮดรอยเป็นต้น ทั้งนี้ยังพบ ขยะทะเลจำนวนหนึ่ง เช่น ถุงพลาสติก เศษเชือก เศษกระสอบ หนังยางรัดแกง แต่ไม่พบการอักเสบของทางเดินอาหาร ทั้งนี้ไม่พบการปนเปื้อนหรือคราบน้ำมัน ทั้งภายในและภายนอกของเต่าทะเล อย่างไรก็ตามเนื่องจากซากเน่ามากทำให้ไม่สามารถสรุปหาสาเหตุการตายได้
ที่มา : ชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง