อ้อม อินคา อดีตนักร้องดังประกาศทวงเงินผ่านสื่อ หลังแม่นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดัง ยืมไป 4 แสนบาท นานกว่า 4 ปี จนเงินต้น-ดอกเบี้ยเกือบ 7 แสนบาท แต่ได้คืนมาเพียง 2 แสนบาท
ช่วงบ่ายวันนี้ ( 3 มกราคม) ที่ร้านครัวคนเมือง ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 17 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายจารุวัฒน์ วิเศษสมบัติ หรือ อ้อม อินคา อายุ 55 ปี อดีตนักร้องชื่อดังในยุค 90 นัดหมายสื่อมวลชนเพื่อให้สัมภาษณ์เปิดใจหลังนางทัศนีย์ ปานประทีป อายุ 69 ปี แม่ของโอ้ เสกสรรค์ ปานประทีป เพื่อนนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง ยืมเงินจำนวน 4 แสนบาท ตั้งแต่ปี 2558 หลังใช้เวลาทวงถามนานกว่า 4 ปี ได้เงินคืนมาเพียงบางส่วน สุดท้ายเมื่อทวงถามหนักขึ้นแม่ของนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังก็บ่ายเบี่ยง จนสุดทนจึงตัดสินใจทวงถามผ่านสื่อมวลชน เพราะเมื่อรวมเงินต้นและดอกเบี้ยแล้วเป็นเงินกว่า 7 แสนบาท
อดีตนักร้องดัง เผยว่า เคยติดต่อซื้อที่ดินแปลงหนึ่งจากนางทัศนีย์ แต่หลังจบการซื้อขายกันไป ผ่านไปเพียง 1 เดือน นางทัศนีย์ ได้ติดต่อมาขายที่ดินแปลงใหม่ให้อีก เนื่องจากต้องการใช้เงิน แต่ตนเองปฏิเสธไป นางทัศนีย์ จึงเอ่ยปากขอยืมเงินจำนวน 4 แสนบาท เพื่อนำไปหมุนก่อน บอกว่าอีก 1 สัปดาห์ จะคืนเงินให้ ตนเองเห็นว่าเป็นแม่ของโอ้ เสกสรรค์ จึงให้ยืมเงินไป แต่หลังผ่านไป 1 สัปดาห์ กลับไม่ได้รับเงินคืนตามที่ตกลง
จากนั้นตนเองยังพยายามทวงถามตลอดจนถึงช่วงสิ้นปี 2558 นางทัศนีย์ก็บ่ายเบี่ยงอยู่เรื่อย ๆ จนในที่สุดจึงโทรศัพท์ไปขอให้รีบเคลียร์เงินที่ยืมภายในเดือนมีนาคม 2559 เพราะมีความจำเป็นต้องใช้เงินเนื่องจากได้ไปกู้ยืมเงินมาเสียดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละกว่า 2 หมื่นบาท ซึ่งนางทัศนีย์ก็บอกว่า จะรับผิดชอบทั้งเงินต้นที่ยืมไปจำนวน 4 แสนบาท รวมดอกเบี้ยอีกเดือนละ 2 หมื่นบาท
หลังจากนั้นผ่านไปเกือบ 2 ปี ก็ยังไม่ได้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยตามที่นางทัศนีย์บอกไว้ เมื่อทวงถามก็ทยอยคืนมาครั้งละ 4 – 5 พันบาทเท่านั้น จนในที่สุดจึงโทรศัพท์ไปเล่าให้โอ้ เสกสรรค์ฟัง เพื่อหวังว่าเพื่อนจะช่วยได้ ซึ่งโอ้ เสกสรรค์ก็ได้แต่รับฟัง ก่อนจะบอกว่าตัวเองก็ไม่ไหวเหมือนกันเพราะแม่ก็นำที่ดินและบ้านไปขาย
“ผมเสียความรู้สึกมาก เพราะตอนแรกคิดว่าโอ้จะรับผิดชอบเรื่องนี้ในฐานะลูกแต่กลับปฏิเสธ ซึ่งตอนแรกที่ไม่ได้บอกโอ้ ว่าแม่มายืมเงินเพราะกลัวว่าเพื่อนจะเสียหน้า แต่ไม่คิดว่าเรื่องราวจะออกมาในรูปนี้ หากเป็นผมก็ต้องรับผิดชอบแทนแม่”อ้อม อินคา กล่าว
อ้อม อินคา บอกอีกว่า ตนได้โทรศัพท์และไลน์ไปทวงเงินจากแม่โอ้อีกหลายครั้ง แต่นางทัศนีย์ก็ไม่รับสายไม่อ่านข้อความในไลน์ กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2561 จึงตัดสินใจโทรไปทวงเงินจากนางทัศนีย์ด้วยตัวเองอีกครั้ง โดยบอกว่าให้หาหลักทรัพย์หรือหลักฐานอะไรก็ได้มามอบให้ตนเองเพื่อใช้หนี้ นางทัศนีย์จึงนำโฉนดที่ดินจัดสรรที่ทำเอง เนื่องที่ 100 ตาราวา ในจังหวัดกาญจนบุรีมามอบให้ พร้อมใบโอนลอย เพื่อให้ตนนำที่ดินดังกล่าวไปขายใช้หนี้ โดยบอกว่าที่ดินมีราคาตารางวาละ 5.5 พันบาท แต่เมื่อตรวจสอบแล้วที่ดินแปลงนี้อยู่ค่อนข้างไกล จึงไม่มีใครรับซื้อ สุดท้ายตนเองจึงต้องนำไปขายให้กับเพื่อนรุ่นน้อง ซึ่งก็รับซื้อที่ดินไว้ในราคาเพียง 1 แสน 5 หมื่นบาท
สาเหตุที่ต้องออกมาให้สัมภาษณ์ทวงเงินผ่านสื่อ เพราะอยากให้คู่กรณีละอายใจบ้างและหวังว่าทั้งนางทัศนีย์และโอ้ เสกสรรจะแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่บ่ายเบี่ยงหรือปฏิเสธไม่รับผิดชอบจนตนเองได้รับความเดือดร้อน เพราะจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อนำไปลงทุนต่อ โดยหลายครั้งที่ต้องโทรศัพท์ไปทวงถาม ก็สุดทนจนในความไม่รับผิดชอบของคู่กรณีจึงได้ด่ากลับไปหลายครั้งเช่นกัน
สำหรับยอดเงินที่ให้ยืมไป 4 แสนบาท รวมดอกเบี้ยอีกเดือนละ 2 หมื่นบาท รวมประมาณ 8 แสนบาท เมื่อหักเงินที่ทยอยคืนมาแล้วราว 7 หมื่นบาท และ หักค่าขายที่ดิน 1 แสน 5 หมื่นบาท รวมได้คืนมาแล้ว 2 แสน 2 หมื่นบาท ยังคงค้างอีกเกือบ 7 แสนบาท ซึ่งตนมีหลักฐานการรับโอนเงินทุกอย่าง แต่ไม่ต้องการไปแจ้งความ เพียงอยากทวงผ่านสื่อเพื่อให้คู่กรณีรับผิดชอบ