ประเด็นน่าสนใจ
- โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ เร่งเยียวยาคนทำงานบันเทิง และอาชีพอิสระสถานบันเทิง ม. 33 /39 และ 40
- สำนักงานประกันสังคมเตรียมโอน 5,000 บาท ต่อคน โอนรอบแรกวันนี้
- แบ่งเป็น ผู้ประกันตน มาตรา 33 จำนวน 10,762 ราย และผู้ประกันตน มาตรา 39-40 จำนวน 110,669 ราย
วันที่ 29 ธ.ค. 64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกันตนที่เป็นแรงงานและผู้ประกอบการในกิจการสถานบันเทิง เช่น ผับ บาร์ คาราโอเกะให้ทันก่อนสิ้นปี
โดยสำนักงานประกันสังคมรายงานว่า จะเริ่มโอนเงินเยียวยา จำนวน 5000 บาท เข้าบัญชีธนาคารผู้ประกันตนรอบแรกในวันนี้ (29 ธันวาคม 2564) ประมาณ 30,000 คน ซึ่งเป็นผู้มีรายชื่อในฐานข้อมูลผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมของกลุ่มคนทำงานในสถานบันเทิงจำนวนประมาณ 120,000 คน
สำหรับกลุ่มคนบันเทิงใด ที่ยังไม่ได้สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สามารถสมัครและชำระเงินสมทบให้ทันภายในวันที่ 14 มกราคม 2565 โดยให้สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมถ์ หรือสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิง ที่จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทยหรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับรองเพื่อขอรับสิทธิเงินเยียวยา
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 กรอบวงเงิน 607.15 ล้านบาท เพื่อเยียวยาผู้ประกันตนที่เป็นแรงงานและผู้ประกอบการในกิจการสถานบันเทิง เช่น ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือที่ทำงานบันเทิง นักร้อง ลิเก นักดนตรี พนักงานเสริฟ คนขับรถรับ-ส่งที่ยังไม่สามารถประกอบอาชีพได้
เนื่องจากมาตรการสั่งปิดสถานที่ และสถานประกอบการเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยจะโอนเงินเยียวยารายละ 5,000 บาท รอบแรกในวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ให้กับผู้ประกันตนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น 121,431 ราย แบ่งเป็น ผู้ประกันตน มาตรา 33 จำนวน 10,762 ราย และผู้ประกันตน มาตรา 39-40 จำนวน 110,669 ราย
นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีเข้าใจความลำบากของประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มผู้ทำงานอิสระ คนบันเทิงกลางคืน ที่สถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนต้องปิดกิจการชั่วคราวมาเป็นระยะยาวนาน จึงได้กำชับให้กระทรวงแรงงานเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อมอบให้ทันเป็นของขวัญปีใหม่นี้ด้วย