กระทรวงพลังงาน ยังยืนยันมั่นใจว่าจะรับมือสถานการณ์ได้ และเร่งใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ แอลเอ็นจีทดแทน ส่วนแท่นผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย ที่คาดว่าเป็นเส้นทางผ่านพายุที่หยุดผลิต
กระทรวงพลังงาน รายงานความคืบหน้าสถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึก ต่อการผลิตปิโตรเลียมในทะเลอ่าวไทย วันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ว่าได้อพยพเจ้าหน้าที่แล้ว 2,635 คน คงเหลือปฏิบัติหน้าที่อยู่ 246 คน ส่วนการจัดการด้านไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จัดเตรียมอุปกรณ์หนักสำหรับแก้ไขปัญหาหากระบบผลิตและระบบส่งไฟฟ้าได้รับความเสียหายจากพายุ เตรียมสำรองจากเชื้อเพลิงอื่นเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งประสานกับประเทศมาเลเซียขอซื้อไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน
ขณะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เตรียมพร้อมในศูนย์ควบคุมการจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ ทั้ง เพชรบุรี นครศรีธรรมราชและสงขลา ด้านบุคลากร อุปกรณ์ ยานพาหนะ ระบบสื่อสาร เครื่องกำเนิดไฟฟาสำรองและน้ำมันเชื้อเพลิงตลอดเวลา พร้อมส่งทีมงานสนับสนุนจากพื้นที่ภาคกลาง
ทั้งนี้ แหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบในอ่าวไทย ขณะนี้ยังดำเนินการผลิตต่อไป ยกเว้น แหล่งบงกชเหนือ ที่หยุดผลิตไป เพราะอยู่ในเส้นทางพายุ ทำให้ก๊าซธรรมชาติลดลงในปริมาณเท่าเมื่อก่อนหน้านี้ที่ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และน้ำมันดิบลดลงอยู่ที่ 27,000 บาร์เรลต่อวัน
ขณะที่แหล่งก๊าซธรรมชาติไพลินเหนือสามารถกลับมาผลิตได้อีกครั้งเร็วกว่าแผนหลังจากหยุดซ่อมบำรุง ทำให้มีก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยเข้าระบบมากขึ้น
ส่วนก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ แอลเอ็นจี ที่ใช้เพิ่มเติม มีความพร้อมจ่ายได้สูงสุด 1,400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และมีสำรองมากพอรองรับหากมีแหล่งก๊าซต้องหยุดผลิตจากพายุเพิ่มเติม ด้านความมั่นคงของแท่นในอ่าวไทย มีรายงานจากผู้เชี่ยวชาญให้ความมั่นใจได้ว่า มีการรายงานความปลอดภัยตลอดเวลา และสามารถรองรับความแรงของพายุได้