ประเด็นน่าสนใจ
- ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ คําสั่งกระทรวงการคลัง เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท บิทคอยน์ จํากัด
- พิจารณาแล้ว เห็นว่าบริษัทฯไม่สามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กําหนดตามประกาศกระทรวงการคลัง
- หากบริษัทไม่เห็นด้วยกับคําสั่งนี้ มีสิทธิเสนอคําฟ้องยื่นต่อศาลปกครอง ที่มีเขตอํานาจภายใน 90 วัน
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คําสั่งกระทรวงการคลังที่ ๑๙๐๔/๒๕๖๔ เรื่อง เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท บิทคอยน์ จํากัด
ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงว่า บริษัท บิทคอยน์ จํากัด (“บริษัท”) ในฐานะผู้ได้รับใบอนุญาต ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็นศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี และใบอนุญาตประกอบ ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็นศูนย์ซื้อขายโทเคนดิจิทัล ตามพระราชกําหนดการประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. ๒๕๖๑ ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการได้รับใบอนุญาตตามข้อ ๒ (๓) ประกอบกับ ข้อ ๓ (๒) ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การอนุญาตการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. ๒๕๖๑ ลงวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ (“ประกาศกระทรวงการคลัง”)
โดยเมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๓ และวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ บริษัทได้ลดทุนจนทําให้ทุนจดทะเบียน ซึ่งชําระแล้วของบริษัทเหลือเพียง ๑๒.๕ ล้านบาท และ ๓.๑๒๕ ล้านบาท ตามลําดับ ซึ่งข้อ ๒ (๑) ของประกาศคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. ๒๐/๒๕๖๑ เรื่อง การกําหนด ทุนจดทะเบียนซึ่งชําระแล้วของผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ลงวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
ประกอบกับข้อ ๓ (๑) ของประกาศคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. ๓๒/๒๕๖๓ เรื่อง การกําหนดทุนจดทะเบียนซึ่งชําระแล้วของผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัล ลงวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ที่กําหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ต้องมีทุนจดทะเบียนซึ่งชําระแล้วไม่น้อยกว่าจํานวน ๕๐ ล้านบาท
ดังนั้น บริษัทจึงไม่สามารถ ดํารงคุณสมบัติในเรื่องการมีทุนจดทะเบียนซึ่งชําระแล้วไม่น้อยกว่าจํานวนที่คณะกรรมการกํากับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“คณะกรรมการ ก.ล.ต.”) กําหนดได้
นอกจากนี้ บริษัทได้หยุด ประกอบธุรกิจและทิ้งร้างบริษัทเกินกว่า ๑๕ วันนับแต่วันที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจะไม่ประกอบธุรกิจต่อไป รวมทั้งปลดพนักงานทั้งหมดและไม่สามารถติดต่อกรรมการได้ตั้งแต่วันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๓ ต่อเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน ตามข้อ ๒ (๒) และข้อ ๓ ของประกาศคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. ๔/๒๕๖๔ เรื่อง กําหนดเวลาการหยุดประกอบธุรกิจตามที่ได้รับอนุญาต อันเป็นเหตุให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอาจถูกเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจ ลงวันที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ (“ประกาศ กธ. ๔/๒๕๖๔”)
ดังนั้น คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ ๑๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๔ จึงได้มีมติเสนอแนะต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า สมควรเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็นศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี และใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ ดิจิทัลประเภทการเป็นศูนย์ซื้อขายโทเคนดิจิทัลของบริษัท
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาแล้ว เห็นว่าบริษัทไม่สามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กําหนดตามข้อ ๗ ของประกาศกระทรวงการคลัง
และข้อ ๒ (๒) และข้อ ๓ ของประกาศ กธ. ๔/๒๕๖๔ จึงอาศัยอํานาจตามมาตรา ๓๔ แห่งพระราชกําหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. ๒๕๖๑ เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็นศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี เลขที่ ๓๑๐๑๘๐๐๐๐๐๐๐ และ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็นศูนย์ซื้อขายโทเคนดิจิทัล เลขที่ ๓๑๐๒๘000000) ของบริษัท อย่างไรก็ดี หากบริษัทไม่เห็นด้วยกับคําสั่งนี้ มีสิทธิเสนอคําฟ้องยื่นต่อศาลปกครอง ที่มีเขตอํานาจภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคําสั่ง
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง