ประเด็นน่าสนใจ
- มาตรการตัดแต้มใบขับขี่รถขนส่งและรถสาธารณะ ของทางการกรมการขนส่งทางบก เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
- มาตรการดังกล่าวบังคับใช้กับผู้ขับรถบรรทุก รถโดยสาร แท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก จักรยานยนต์รับจ้าง
- ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรการตัดแต้มรถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) นำระบบตัดแต้มใบอนุญาตขับรถขนส่งและรถสาธารณะมาดำเนินการบังคับใช้กับผู้ขับรถบรรทุก รถโดยสาร แท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก จักรยานยนต์รับจ้าง ที่กระทำผิดตาม พ.ร.บ. การขนส่งทางบก หรือ พ.ร.บ. รถยนต์
โดยนำระบบการบันทึกคะแนน การตัดคะแนนมาใช้เป็นเกณฑ์ในการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ และให้ผู้กระทำผิดที่ถูกตัดคะแนนต้องเข้ารับการอบรมและทดสอบเพื่อควบคุมพฤติกรรมการขับรถและการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ขับรถให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ป้องปราม และลดการกระทำผิดซ้ำ เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับมาตรการตัดแต้มรถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ที่เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
มาตรการตัดแต้มใบขับขี่
สำหรับแนวทางดำเนินการตามมาตรการตัดแต้มใบอนุญาตขับรถขนส่งและรถสาธารณะของ ขบ. กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถขนส่งและรถสาธารณะมีคะแนน 100 คะแนน เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถขนส่งและรถสาธารณะกระทำผิดกฎหมายตามข้อหาที่กำหนด และชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่จะบันทึกประวัติการกระทำผิด และการตัดคะแนนไว้ในระบบงาน โดยการตัดคะแนนจะแบ่งกลุ่มข้อหาความผิดเป็น 3 กลุ่ม ตามความร้ายแรงของการกระทำความผิด
- กลุ่มที่ 1 ตัดคะแนนครั้งละ 10 คะแนน
- กลุ่มที่ 2 ตัดคะแนนครั้งละ 20 คะแนน
- กลุ่มที่ 3 ตัดคะแนนครั้งละ 30 คะแนน
ซึ่งสามารถศึกษาข้อหาความผิดแต่ละกลุ่มได้ทางเว็บไซต์ ขบ. www.dlt.go.th/th และเพจเฟซบุ๊ก “กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News”
ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถกระทำความผิดร้ายแรง เช่น เสพยาเสพติดให้โทษในขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถ หรือขับรถในระหว่างที่ใบอนุญาตถูกพักใช้ กระทำการที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงหรือภาพพจน์ของประเทศ ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น เป็นภัยต่อสังคม หรือก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจนเป็นเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจำนวนมาก ผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถขนส่งและรถสาธารณะดังกล่าวจะถูกพักใช้ใบอนุญาตทันที และถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนนในครั้งเดียว
ทั้งนี้ หากผู้ได้รับใบอนุญาตที่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 90 วัน และหากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตเกินกว่า 2 ครั้ง ภายในระยะเวลา 3 ปี นับจากวันที่ถูกตัดคะแนนครั้งแรก จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 180 วัน และเมื่อนายทะเบียนมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตแล้ว เจ้าหน้าที่จะบันทึกรายละเอียดข้อมูลการพักใช้หรือเพิกถอนไว้ในระบบงานทันที และแจ้งคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นหนังสือให้ผู้กระทำความผิดลงนามรับทราบ หรือจัดส่งหนังสือทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับคำสั่งดังกล่าว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ออกคำสั่งเป็นต้นไป
การเพิ่มคะแนนใบขับขี่
สำหรับกรณีผู้ได้รับใบอนุญาตที่ถูกตัดคะแนนสามารถมาเลือกเข้ารับการอบรมและทดสอบตามหลักสูตรเพื่อคืนคะแนนได้ด้วยตนเอง โดยหลักสูตรอบรมเวลา 2 ชั่วโมง จะได้รับคะแนนคืน 50 คะแนน และหลักสูตรอบรมเวลา 4 ชั่วโมง จะได้รับคะแนนคืน 100 คะแนน ทั้งนี้ จะได้รับคืนคะแนนที่ถูกตัดในวันที่ผ่านการอบรมทดสอบ หากไม่ผ่านการทดสอบสามารถขอเข้ารับการทดสอบใหม่ได้อีก 3 ครั้งภายใน 7 วันทำการนับแต่วันที่ขอเข้ารับการอบรมและทดสอบครั้งแรก
โดยคะแนนที่ได้คืนรวมกับคะแนนคงเหลือต้องไม่เกิน 100 คะแนน สามารถขอเข้ารับการอบรมเพื่อคืนคะแนนได้ปีละ 1 ครั้ง (ตามปีปฏิทิน) สำหรับผู้ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตต้องเข้ารับการอบรมและทดสอบตามหลักสูตรอบรมเวลา 4 ชั่วโมงเท่านั้น โดยมีสิทธิขอเข้ารับการอบรมได้ 1 ครั้ง ในช่วงเวลาที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต เมื่อผ่านการอบรมและทดสอบและพ้นกำหนดเวลาการพักใช้ใบอนุญาต จะได้รับคะแนนคืนกลับมาเป็น 100 คะแนน
สำหรับผู้ถูกตัดคะแนนหรือถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตที่ประสงค์เข้ารับการอบรมและทดสอบเพื่อขอคืนคะแนน สามารถแจ้งความประสงค์พร้อมหลักฐานใบอนุญาตขับรถหรือบัตรประจำตัวประชาชน ณ กองตรวจการขนส่งทางบก ขบ. สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 4 และกลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ขบ. เชื่อมั่นว่ามาตรการตัดแต้มใบขับขี่ จะทำให้พฤติกรรมการขับรถและปฏิบัติหน้าที่ของผู้ขับรถบรรทุก รถโดยสาร แท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก จักรยานยนต์รับจ้าง เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะนำมาสู่การมีจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการขนส่งทางถนน และการให้บริการผู้โดยสารรถสาธารณะ