แรมโบ้ แอมเนสตี้

“แรมโบ้” ประกาศไล่แอมเนสตี้ฯ ทำไม่ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง

กลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันและเครือข่ายปกป้องสถาบัน 6 องค์กร เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกฯ โดยมี 'แรมโบ้ อีสาน' เป็นผู้รับเรื่อง

Home / NEWS / “แรมโบ้” ประกาศไล่แอมเนสตี้ฯ ทำไม่ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง

ประเด็นน่าสนใจ

  • กลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันและเครือข่ายปกป้องสถาบัน 6 องค์กร เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกฯ โดยมี ‘แรมโบ้ อีสาน’ เป็นผู้รับเรื่อง
  • ขอให้รัฐบาลดำเนินการตรวจสอบการทำงานขององค์กร แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
  • ด้าน ‘แรมโบ้ อีสาน’ ประกาศพร้อมขับไล่ แอมเนสตี้ฯ หากทำไม่ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี

วันนี้ ( 25 พ.ย.64 ) ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายนพดล พรหมภาสิต กลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันและเครือข่ายปกป้องสถาบัน 6 องค์กร ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐบาลดำเนินการตรวจสอบการทำงานขององค์กร แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (Amnesty International Thailand ) มีพฤติกรรมการกระทำเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและสถาบันพระมหากษัตริย์

เนื่องจากปรากฏเหตุการณ์ว่า แอมเนสตี้ไทยได้ประกาศแคมเปญเขียนจดหมายล้านฉบับถึงทั่วโลก จี้ทางการไทยให้หยุดดำเนินคดีกับ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ถือว่าองค์กรดังกล่าวเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ จงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทย เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2564 นั้น ผูกพันทุกองค์กร

ซึ่งการกระทำขององค์กรดังกล่าวอาจถือได้ว่า อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลกระทำการจาบจ้วงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้หากพบข้อมูลหลักฐานอันเชื่อได้ว่าองค์กรดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายแทรกแซงกิจการความมั่นคงของประเทศ ขอให้มีมาตรการทางกฎหมายจัดการกับองค์กรนี้ให้พ้นออกไปจากประเทศไทย

ทั้งนี้นายเสกสกล กล่าวว่า ตนได้ประกาศ “ เปิดแคมเปญลงชื่อขับไล่แอมเนสตี้ 1 ล้านชื่อ ขณะนี้มีประชาชนมาลงรายชื่อแล้วมากกว่า 5 แสนรายชื่อ และมีเครือข่ายของภาคประชาชนที่ออกมาปกป้องสถาบัน ทั่วประเทศได้ออกมาเคลื่อนไหวตามแต่ละจังหวัด ซึ่งตนเองจะเดินสายไปรับรายชื่อ ในทุกภาคทุกจังหวัด พร้อมกับล่ารายชื่อประชาชนขับไล่ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เห็นว่าประชาชนคนไทยไม่เอาองค์กรที่มาชังชาติทำลายความสงบสุข ทำลายบ้านเมือง และคิดร้ายต่อสถาบัน ปล่อยเอาไว้ไม่ได้เด็ดขาด

ขณะเดียวกันตนจะดำเนินการ 2 แนวทางควบคู่กันไปคือดำเนินการตามกฎหมาย เพราะหากไม่รักษากฎหมายอยู่ภายใต้กฎหมายของไทย จะต้องเอาเข้าคุกเข้าตาราง หรือไล่ออกนอกประเทศให้ได้ รวมถึงจะต้องกดดันด้วยพลังคนไทยที่จงรักภักดี ให้ได้มากกว่า 1 ล้านรายชื่อ หรือหลายล้านคนให้ได้

นายเสกสกลยังระบุว่าตนเองจะยื่นหนังสือให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมการเงินขององค์กรนี้ว่าใช้เงินจากต่างประเทศจ้างคนไทยที่หัวชังชาติ ไม่รักบ้านเมือง รักแผ่นดินเกิดให้มาทำลายประเทศทำลายสถาบัน โดยตนเองจะส่งให้กับฝ่ายกฎหมายของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้การที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ออกมาเคลื่อนไหว สร้างความแตกแยกให้กับคนไทย และละเมิดจาบจ้วงสถาบัน ถือว่าเป็นองค์กรที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้จดทะเบียน ดังนั้นขอเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นนายทะเบียน เพิกถอนองค์กรนี้ไปด้วย เพราะทำผิดเงื่อนไขระเบียบข้อกฎหมายชัดเจน

“ตนเองขอสัญญากับพี่น้องคนไทยที่รักและปกป้องสถาบันว่า จะยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างประชาชนที่รักชาติ รักบ้านเมือง รักสถาบัน ผมขอเดิมพันด้วยชีวิตและไม่ยึดติดกับตำแหน่ง ถึงแม้ว่าขณะนี้จะดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี แต่ตนเองมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งหากไล่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ออกไปจากประเทศไทยไม่ได้ ผมพร้อมที่จะลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไปเคลื่อนไหวร่วมกับพี่น้องประชาชนผู้รักสถาบัน ขับไล่องค์กรนอกรีตนี้ออกไปพ้นแผ่นดินไทยให้จงได้” นายเสกสกล กล่าว

ภาพ : วิชาญ โพธิ