คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป โดย ผศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต คาดการณ์เศรษฐกิจไตรมาสแรกปี พ.ศ. 2562 ว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกปี 62 อาจขยายตัวต่ำกว่า 3% เป็นผลจากปัจจัยลบทั้งภายนอกและภายในประเทศรุมเร้าเพิ่มขึ้น
เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างชัดเจนกระทบต่อภาคส่งออก ภาคท่องเที่ยวและภาคการลงทุนของไทย นอกจากนี้จะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อคอนโดมิเนียมและโครงการห้องชุดต่างๆ ในไทยของนักลงทุนชาวจีน โดยเริ่มเห็นสัญญาณของการทิ้งเงินดาวน์เงินจองกันบ้างแล้ว ส่วนความขัดแย้งในเรื่องงบประมาณของสหรัฐฯ นำมาสู่การปิดทำการของหน่วยราชการได้ส่งสัญญาณเชิงลบต่อตลาดการเงินทั่วโลก แต่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินของไทยไม่มากนัก
ขณะที่การเลื่อนการเลือกตั้งจากวันที่ 24 ก.พ. 62 ถือเป็นการเลื่อนการเลือกตั้งครั้งที่ 5 กระทบภาคการลงทุนแน่นอน โดยเฉพาะจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติอย่างรุนแรง ส่วนผลกระทบจากพายุปาปึกจะกระทบต่อการท่องเที่ยวและกิจกรรมเศรษฐกิจในภาคใต้ แต่กระทบเพียงระยะสั้นเท่านั้น หากสามารถฟื้นฟูที่ได้รับความเสียหายได้อย่างรวดเร็วจะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่เกิน 2,500 ล้านบาท
ผศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม. รังสิต ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า รัฐบาลต้องเร่งฟื้นฟูความเสียหายจากผลกระทบพายุปาปึก เร่งฟื้นฟูความน่าเชื่อถือของรัฐบาลโดยรักษาคำพูด ยึดถือนิติรัฐ ไม่สอดแนมหรือละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลโดยเฉพาะคู่แข่งทางการเมือง และไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม องค์กรอิสระ รวมทั้งบริหารประเทศด้วยความโปร่งใสมีธรรมภิบาลจนกระทั่งทำให้คำตัดสินของ ปปช ไม่เป็นที่ยอมรับและไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป