นักสังคมสงเคราะห์ พ่อจับก้นลูก หนึ่ง จักรวาล

เพจนักสังคมฯ ชี้ไม่เหมาะสม กรณีคลิปนักดนตรีดังแสดงความรักต่อลูกสาวเกินงาม

ในโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปดราม่านักดนตรีและโปรดิวเซอร์เพลงชื่อดังได้ถ่ายคลิปกับลูกสาวลงในโซเชียล แสดงความรักต่อลูกแบบถึงเนื้อถึงตัว

Home / NEWS / เพจนักสังคมฯ ชี้ไม่เหมาะสม กรณีคลิปนักดนตรีดังแสดงความรักต่อลูกสาวเกินงาม

ประเด็นน่าสนใจ

  • ในโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปดราม่านักดนตรีและโปรดิวเซอร์เพลงชื่อดังได้ถ่ายคลิปกับลูกสาวลงในโซเชียล แสดงความรักต่อลูกแบบถึงเนื้อถึงตัว
  • ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความขอโทษถึงเรื่องดังกล่าว พร้อมยอมรับและเข้าใจในความคิดเห็น ที่มองว่าไม่สมควร
  • ทางเพจนักสังคมสงเคราะห์เล่าเรื่อง ระบุพฤติกรรมที่คุณพ่อแสดงต่อน้องนั้น “ไม่เหมาะสม” ชี้ควรปฏิบัติต่อเด็กด้วยความเคารพต่อสิทธิความเป็นส่วนตัว

จากกรณีคลิปดราม่านักดนตรีและโปรดิวเซอร์เพลงชื่อดังได้ถ่ายคลิปกับลูกสาวลงในโซเชียล จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม จากพฤติกรรมการแสดงความรักต่อลูกแบบถึงเนื้อถึงตัว จนเกิดเป็นแฮชแท็กติดเทรนด์ในโลกออนไลน์

ต่อมาทางนักดนตรีและโปรดิวเซอร์เพลงชื่อดังคนดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องนี้ โดยระบุว่า

“จากเรื่องราว ของโซเชียลที่เกิดขึ้นในวันนี้ เรื่องที่ผมจับก้นลูก หรืออะไรก็ตาม ก่อนอื่นผมต้องขออภัยและขอบคุณทุกคน ที่เป็นห่วงเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนมองต่างมุม

ซึ่งผมก็ยอมรับและเข้าใจในความคิดเห็น ที่มองว่าไม่สมควร ต่อจากนี้ผมจะระมัดระวังการแสดงออกความรักกับลูกให้เหมาะสมมากกว่านี้ครับ และผมขอสนับสนุนการแสดงออกถึงความรักในครอบครัว ให้อยู่ในขอบเขต และการเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน”

มุมมองจากนักสังคมสงเคราะห์

อย่างไรก็ตามทาง เพจนักสังคมสงเคราะห์เล่าเรื่อง ได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า เด็กจำเป็นและคู่ควรที่จะได้รับความรักผ่านการสัมผัส เช่น กอด หอม จากพ่อแม่ แต่การสัมผัสเหล่านั้นต้องสอดคล้องกับขอบเขตที่เหมาะสม และเป็นไปด้วยความเต็มใจของเด็ก (ขอบเขตที่ไม่เหมาะสม แม้เด็กเต็มใจก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้)

หลักสูตรและการเรียนรู้ที่สำคัญในการสอนเด็กให้สามารถระบุภัยทางเพศ คือการสอนให้เด็กรู้จักความรู้สึกที่ดี และความรู้สึกที่ไม่ดี ควบคู่ไปกับการรู้จักอวัยวะในร่างกายของตนเอง และขอบเขตทางร่างกายที่รู้สึกปลอดภัย และลำดับขั้นการอนุญาตที่เด็กจะมีให้คนแต่ละคนเข้ามาใกล้ หรือสัมผัสอวัยวะแต่ละส่วนของเขา

กฎเหล็กที่สำคัญ

ในกรณีที่เด็กสามารถจัดการธุระของตนเองได้ เช่น ล้างฉี่ ล้างก้นได้แล้ว แม้แต่คนใกล้ตัวเด็กมากที่สุดอย่างพ่อแม่ ก็ไม่ควรหรือไม่มีสิทธิที่จะจับ สัมผัส อวัยวะปกปิด ซึ่งประกอบไปด้วย หน้าอก ก้น อวัยวะเพศของเด็กได้อย่างปกติ ยกเว้นในกรณีที่เด็กเจ็บป่วยหรือต้องอยู่ในสภาวะที่ต้องได้รับการดูแลเพียงเท่านั้น

โดยเหตุที่เราจำเป็นต้องสอนเด็กเช่นนี้เพราะว่าถ้าเด็กถูกจับและสัมผัสอวัยวะปกปิดจนเป็นสิ่งปกติ เขาเองจะไม่เรียนรู้ขอบเขตที่เหมาะสมทางด้านร่างกายและเรียนรู้ความรู้สึกการเป็นเจ้าของเนื้อตัวร่างกายของเขาเอง ซึ่งจะนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะถูกทารุณกรรมทางเพศจากผู้ใกล้ชิด และจากข้อมูลสถิติ ผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กส่วนใหญ่คือบุคคลใกล้ชิดที่เด็กไว้วางใจ

ซึ่งเวลาสอนเด็กเราจึงบอกเสมอว่าถ้ามีใครมาจับ ก้น หน้าอก หรืออวัยวะเพศ ให้มาบอกพ่อแม่ หรือถ้าพ่อแม่จับก็ให้มาบอกคุณครู เพื่อที่เราจะได้ทำงานกับครอบครัวเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงต่อว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าพ่อแม่ยังไม่เข้าใจเราจำเป็นต้องให้พ่อแม่เข้าใจความจำเป็นในเรื่องนี้

สรุปประเด็นนี้นะคะ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ พฤติกรรมที่คุณพ่อแสดงต่อน้องนั้น “ไม่เหมาะสม” ค่ะ

แอดมินขอฝากทุกท่านว่าเรื่องนี้คือเรื่องไม่ปกติ ขอความกรุณาทุกท่านปฏิบัติต่อเด็กด้วยความเคารพต่อสิทธิความเป็นส่วนตัว ต่อเนื้อตัวร่างกายของพวกเขา

เราเป็นผู้ใหญ่หน้าที่ของพวกเราคือการคิดเยอะ ๆ ค่ะ เพราะเกิดเหตุวิพากษ์วิจารณ์มาแม้พ่อแม่เองไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แต่ผลกระทบเหล่านี้เกิดขึ้นกับเด็กแน่นอน อย่างน้อย ๆ คือการมีรอยเท้าบนโลกออนไลน์ที่ครั้งหนึ่งพ่อและแม่พาเขาเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเหล่านี้

ข้อมูล : นักสังคมสงเคราะห์เล่าเรื่อง