นายกรัฐมนตรีเยี่ยมผู้ประสบภัย ‘พายุปาบึก’ ก่อนปีนขึ้นซ่อมหลังคาบ้านชาวบ้านด้วยตัวเอง ด้านคอหวยแห่เล็งเลขรถนายกรัฐมนตรี
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 7 ม.ค.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก ในหลายพื้นที่ของ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โดยจุดแรกนายกรัฐมนตรีแวะเยี่ยมวางพวงหรีดเคารพศพนายปรีชา จันทร์แก้ว อายุ 66 ปี ซึ่งจมน้ำเสียชีวิตจากเหตุการณ์พายุถล่ม 4 มค.ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 7 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวปลอบใจญาติผู้เสียชีวิต ก่อนออกเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยที่บริเวณสามแยกเนินตาขำ ริมชายทะเลอ่าวไทย ต.บางพระ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โดยพบปะพร้อมกล่าวให้กำลังใจผู้ประสบภัย และมอบถุงยังชีพจำนวน 2,000 ชุด
จากนั้นเวลา 12.00 น.พล.อ.พระยุทธ์ และคณะได้เดินทางตรวจสภาพความเสียหายจากพายุ ในพื้นที่ ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง ก่อนเดินทางไปพบปะเยี่ยมผู้ประสบภัยที่หอประชุม รร.ราชประชานุเคราะห์ ต.แหลมตะลุมพุก ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นของชาว ต.แหลมตะลุมพุก
เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้ตรวจอาคารหอประชุมของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ สถานที่เก็บรักษาข้าวของเครื่องใช้ เครื่องมือทำมาหากินของผู้ประสบภัย ต.แหลมตะลุมพุก โดยเป็นอาคารตึก 2 ชั้น ชั้นล่างยกระดับสูงกว่าพื้นประมาณ 1 เมตร ภายในอาคารทั้งชั้น 1 และ 2 มีห้องโถงกว้างขวางสามารถเก็บรักษาข้าวของเครื่องใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งเครื่องมือทำมาหากินของผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมาก
ต่อจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เยี่ยมครัวอาหารของ จนท.ที่มาทำอาหารข้าวไข่เขียวบริการประชาชน พร้อมทั้งได้ตักชิมไข่เจียว โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดว่า จนท.ประจำครัวว่า ไข่เจียวอร่อยสู้ไข่เจียวทหารไม่ได้ต้องมีหัวหอมใส่ไปด้วยถึงจะอร่อย
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีได้เดินไปพบประชาชนผู้ประสบภัยที่นั่งรออยู่ใต้หอประชุม รร.ราษฎร์ประชานุเคราะห์ โดยมีประชาชนชาว ต.แหลมตะลุมพุกมาคอยต้อนรับจำนวน 2000 คน โดย พล.อ.ประยุทธ์ พูดปราศรัยพบปะประชาชนชาว ต.แหลมตะลุมพุก ผ่านเครื่องขยายเสียงด้วยอารมณ์ดีและเป็นกันเองว่า
“วันนี้นายกฯเดินทางมาเยี่ยมผู้ประสบภัยมาหลายที่แล้ว ผมพูดกับชาวบ้านที่นี่มาตั้งแต่เช้าก็เวียนหัวเหมือนกัน เพราะต่างคนต่างพูดและคนทางนี่ก็พูดเร็วๆ และเมื่อเช้าชาวบ้านพูดกับผมก็ต้องแปล เพราะท่านพูดเป็นภาษาใต้แต่ผมเป็นคนภาคกลาง ขณะนั้นชาวบ้านได้พูดชมนายกว่าหล่อและทำงานดีมาก และวิงวอนขอให้นายกช่วยให้ราคายางให้ดีขึ้นด้วย
ซึ่งนายกฯได้ตอบว่าจริงเปล่า แต่หล่อกินไม่ได้น่ะ ส่วนราคายางก็พยามเต็มที่ตอนนี้ราคา 40 กว่าบาทแล้ว ซึ่งกว่าจะดันขึ้นราคา 40 ก็แทบตายน่ะ กำลังขึ้น 41 42 43 ราคายางกำลังไต่อยู่ อย่าไปคิดให้ราคาขึ้นทีเดียว 60 บาท ขึ้นทีเดียวมันทำไม่ได้ไม่มีทางเป็นไปได้”
ส่วนเรื่องการช่วยเหลือชาวประมงพื้นบ้านใน อ.ปากพนังก็ได้มีตัวแทนยื่นหนังสือกับตนแล้ว ไม่ต้องห่วงกำลังหาทางแก้ไขอยู่ แต่จะไปพูดว่าผิด กม. ทำไม่ได้หรือทำได้ ทั้งๆ ที่ผิดกม. จะมาพูดตรงนี้ไม่ได้หรอก เดี๋ยวหาวิธีแก้ไข สิ่งใดที่มีปัญหารัฐบาลก็รับไปเพื่อหาทางแก้ไขให้ต่อไป
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่บ้านพังเสียหายจากพายุ ตนได้สั่งการให้ จนท. เร่งสำรวจความเสียหายโดยเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วไม่ต้องห่วง ขอให้แจ้งด้วยความเป็นจริง 15 วันจะต้องตรวจสอบให้ได้ และ 15 วันหลังก็จะเริ่มซ่อมแซมเยียวยาให้กับผู้ประสบภัยทันที จะทยอยดำเนินการให้ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมทั้งหลังหรือบางส่วน หรือสินเชื่อต่างๆ ตนกำลังดูให้ไม่ต้องห่วง และมีงบประมาณดูแลบางส่วนให้อยู่แล้ว
โชคดีของบ้านเราที่มีความเสียหายน้อย ก็จะช่วยเหลือแน่นอนและ มีผู้เสียชีวิต 4 คน ก็ขอแสดงความเสียใจของครอบครัวผู้เสียชีวิต เมื่อเช้าก็ไปเยี่ยมเคารพศพมาแล้ว เรื่องซ่อมบ้านพังทั้งหลัง พังบางส่วน ซ่อมโรงเรียน ประมงเกษตร สวนยาง ปศุสัตว์ทราบว่า ไก่สัตว์มีปีกตายไปแสนกว่าตัวก็จะช่วยเหลือให้เช่นกัน
จากนั้นเวลา 14.00 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปเยี่ยมผู้ประสบภัยพายุปาบึก ที่ ต.ปากนคร ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีประชาชนผู้ประสบภัยจำนวนกว่า 1000 คน มารอต้อนรับและว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคพลังประชารัฐ ใน จ.นครศรีธรรมราช หลายคน ร่วมรอต้อนรับและแจกถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวให้กำลังใจผู้ประสบภัยทุกคน และขอให้ช่วยเหลือตัวเองก่อนให้มากและรัฐบาลกำลังเยียวช่วยเหลื่อผู้ประสบภัยเต็มที่
ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม สภาพความเสียหายของบ้านเรือนราษฎรใน ต.ปากนคร เมื่อเดินทางไปถึงบ้านเลขที่ 1/284 หมู่ 1 ต.ปากนคร ซึ่งเป็นบ้านของนายหมู่ เมฆแก้ว อายุ 32 ปีเจ้าของบ้าน พบว่าได้มีกำลังทหารช่างกองทัพบก กำลังนั่งซ่อมกระเบื้องหลังคาอยู่หลังคาบ้าน ทันใดนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินขึ้นไปปีนบันไดเหล็กขึ้นไปช่วยทหารช่างซ่อมกระเบื้องหลังคาด้วยตนเอง
พร้อมทั้งใช้ฆ้อนตอกตะปูตอกกระเบื้อง ด้วยความคล่องแคล่วเหมือนช่างมืออาชีพ ท่ามกลางเสียงฮือฮา และปรบมือของชาวบ้าน และยังเดินไปปีนขึ้นซ่อมหลังคาบ้านอีกหลังที่ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 20 เมตร ที่บ้านเลขที่ 1/338 หมา 1 ต.ปากนคร ซึ่งเป็นบ้านของนายบุญธรรม คงจูด อายุ 35ปี โดยโชว์ฝีมือซ่อมเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาด้วยความคล่องแคล่วเช่นกัน
จากนั้นคณะนายกรัฐมนตรี เดินทางไปนั่งเรือข้ามฟากนำถุงยังชีพไปแจกราษฎรที่ยังประสบภัยน้ำท่วมในท้องที่หมู่ 4 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จำนวนหลายครัวเรือน ก่อนเดินทางกลับกทม.ในเย็นวันเดียวกัน.
ผู้สื่อข่าวรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้นั่งรถยนต์ของ ปภ.สีส้มยี่ห้อไทยรุ่ง ทรานฟอร์เมอร์ ทะเบียน 7กบ-5079 กทม.และเลขข้างรถ01-02มาตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยพายุปาบึกชาว ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และ ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ7 ม.ค. 62 ชาวบ้านต่างเล็งดูเลขป้ายทะเบียนของนายกรัฐมนตรีไปซื้อหวยตามๆ
