ประเด็นน่าสนใจ
- โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ได้รับการอนุมัติให้ทดลองรักษาโควิด-19 ‘แบบสูดดม’ ในมนุษย์
- เป็นการสูดดมสารละลายกรดอ่อนที่เข้าไปช่วยระบบภูมิคุ้มกันต่อสู้กับการติดเชื้อในทางเดินหายใจอันมีต้นตอจากแบคทีเรียหรือไวรัส
- เดนมาร์กมีประชากรได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หนึ่งโดส จำนวน 4,462,629 คน หรือร้อยละ 76.1 และสัดส่วนผู้รับวัคซีนครบโดสอยู่ที่ร้อยละ 74.8
แถลงการณ์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน (Rigshospitalet) หนึ่งในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุดของเดนมาร์ก เมื่อวันจันทร์ (11 ต.ค.) เผยว่าการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แบบสูดดมรูปแบบใหม่ ได้รับการอนุมัติให้ทดลองทางคลินิกในมนุษย์แล้ว
การรักษาดังกล่าวพัฒนาโดยคณะนักวิจัยชาวเดนมาร์ก มีพื้นฐานมาจากแนวคิดของโธมัส บยานชอลต์ ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาจุลชีววิทยาคลินิกของโรงพยาบาลฯ
บยานชอลต์แถลงข่าวว่าการรักษาข้างต้นคือ “การสูดดมสารละลายกรดอ่อนที่เข้าไปช่วยระบบภูมิคุ้มกันต่อสู้กับการติดเชื้อในทางเดินหายใจอันมีต้นตอจากแบคทีเรียหรือไวรัส” โดยในขั้นต้นจะมุ่งรักษากลุ่มผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และหวังว่าจะสามารถ “พลิกโฉมการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินหายใจประเภทอื่นด้วย”
“มันน่าจะสามารถต่อสู้กับการติดเชื้อประเภทอื่นได้ด้วย เช่น ปอดบวม ไข้หวัดใหญ่ และวัณโรค ซึ่งทั้งสามล้วนเป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้คนนับล้านทั่วโลกทุกปี” บยานชอลต์กล่าว
สิทธิบัตรเทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษานี้ถือครองโดยซอฟต์อ็อกซ์ โซลูชันส์ (SoftOx Solutions) บริษัทนอร์เวย์ ซึ่งร่วมมือในการวิจัยดังกล่าวหลังจากเคยรับหน้าที่เป็นผู้จัดสรรสารละลายทนต่อกรดสำหรับรักษาบาดแผลในการศึกษาก่อนหน้า
บยานชอลต์ระบุว่า “แนวคิดการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 แบบสูดดมนี้มาจากการวิจัยความสามารถต่อสู้กับการติดเชื้อในบาดแผลของสารละลายกรดก่อนหน้านี้ของเรา มันคือแนวคิดเดียวกันที่ผ่านการขัดเกลาและปรับเปลี่ยนเป็นการรักษาด้วยวิธีสูดดมสำหรับต่อสู้กับการติดเชื้อในทางเดินหายใจ”
ทั้งนี้ สถาบันเซรุ่มแห่งเดนมาร์ก (SSI) รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 564 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 3 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 364,464 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 2,671 ราย โดยปัจจุบันเดนมาร์กมีประชากรได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หนึ่งโดส จำนวน 4,462,629 คน หรือร้อยละ 76.1 และสัดส่วนผู้รับวัคซีนครบโดสอยู่ที่ร้อยละ 74.8
ที่มา : Xinhua