ประเด็นน่าสนใจ
- กรมป่าไม้ แถลงสรุปการดำเนินคดีฟาร์มไก่ เขาสนฟาร์ม 2 ของ ‘ปารีณา’
- สรุปพบรุกพื้นที่ป่า 46 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา
- พ่อของ ‘ปารีณา’ บุกกางแผนที่ ยันไม่เชื่อว่าแผนที่ที่ดินผืนเดียวจะสามารถทำผิดกฎหมายได้ถึง 3 ฉบับ
สำนักงานป่าไม้ที่ดินจังหวัดราชบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวสรุป ผลการแจ้งความดำเนินคดี ฟาร์มไก่”เขาสนฟาร์ม 2”ของ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า อาจมีการเข้ารังวัดพื้นที่ผิดพลาดในครั้งแรก มีความจำเป็นต้องให้ความเป็นธรรมต้องมีการรังวัดเกิดขึ้นใหม่ จนมาถึงวันที่ 29 ที่ได้ข้อเท็จจริงใหม่ที่ถูกต้อง ซึ่งหลังจาก 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมาที่เริ่มทำงานเกี่ยวกับที่ดินแปลงนี้ของนางสาวปารีณา ที่ผ่านมากรมป่าไม้ยังตกเป็นจำเลยว่ามีการช่วยเหลือในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งต้องมีความละเอียดรอบคอบมีความจำเป็นต้องยืดระยะเวลาออกไปเล็กน้อย
โดยสรุปพบความผิดรุกพื้นที่ป่าของนางสาวปารีณา พื้นที่ที่จะดำเนินคดี มีทั้งหมด 46 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา อยู่ในป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี 41 ไร่ 1 งาน 59 ตารางวา อยู่ในเขตป่าตาม พราราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 จำนวน 4 ไร่ 3 งาน 81 ตารางวา
ทั้งนี้ไม่ขอแถลงถึงพฤติการณ์การครอบครองที่ดินของนางสาวปารีณา เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อสำนวนคดีหลังจากนี้ซึ่งหลังจากนี้จะขอให้เป็นกระบวนการทางกฎหมายที่จะเข้าแจ้งความกับนางสาวปรีณาในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ย้ำว่ากรมป่าไม้ได้รับคำสั่งมาตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายนเริ่มทำงานวันที่ 24 จนเสร็จสิ่นครบถ้วนสมบูรณ์ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ย้ำว่ากรมป่าไม้ยังมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าทวงคืนพื้นป่า และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการครอบครองที่ดินที่เป็นพื้นที่ป่า
หลังจากนี้อธิบดีกรมป่าไม้ จะมอบหมายให้คณะทำงาน นำเรื่องราวเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 4 พระราชบัญญัติ
ระหว่างการแถลงข่าวนายทวี เดินทางมารับฟังการแถลงข่าวแจ้งของกรมป่าไม้ พร้อมนำแผนที่จากกรมที่ดินที่มีการแนบท้ายกฎทางกระทรวงฯ อัตราส่วน 1 ต่อ 400,000 มาสอบถามกับอธิบดีกรมป่าไม้เพื่อขอให้ชี้จุดที่ชัดเจนที่อ้างว่ามีการบุกรุกป่า ว่าอยู่บริเวณใดของแผนที่เนื่องจากไม่เชื่อว่าแผนที่ที่ดินผืนเดียวจะสามารถทำผิดกฎหมายได้ถึง 3 ฉบับ ซึ่งหากเป็นไปตามที่อธิบดีกรมป่าไม้แถลงจะทำให้มีพื้นที่ที่ทำผิดกฎหมายกว่าอีก 10,000 ไร่ที่จะได้รับผลกระทบ
ซึ่งอธิบดีกรมป่าไม้ได้ชี้แจงว่าทั้งหมดตามสเกลที่กรมป่าไม้อ้างอิงมีการตรวจวัดอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว ถึงได้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดซึ่งก็เป็นหน้าที่ของผู้ถูกกล่าวหาจะมีสิทธิ์โต้แย้งอ้างอิงตามหลักฐานที่มี ซึ่งหลังจากแจ้งความดำเนินคดี ต่อ บก.ปทส. จะเข้าพื้นที่ติดป้ายพื้นที่ตรวจยึดต่อไป และหากผู้ถูกกล่าวหาจะฟ้องกลับกรมป่าไม้ ขอให้ฟ้องเฉพาะอธิบดีกรมป่าไม้เพียงคนเดียว
ทั้งนี้นายทวี ขอฝากข้อความถึงนางสาวปารีณา อย่าฟ้องร้องหรือฟังทนายความที่จะฟ้องกลับกรมป่าไม้ เพราะทุกคนปฏิบัติตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา