ประเด็นน่าสนใจ
- การประท้วงในฮ่องกง ที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลายาวนาน จนบานปลายกลายเป็นเหตุการณ์รุนแรง
- มีผู้ประท้วงบางราย ใช้ความรุนแรงตอบโต้ประชาชนที่มีมุมมองทางการเมืองไม่เหมือนกัน
- เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเปิดเผยว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ใช้ศาลเตี้ยกับประชาชนที่คิดต่าง
เมื่อวันจันทร์ (2 ธ.ค.) ตำรวจฮ่องกงเตือนผู้ก่อจลาจล ที่มีพฤติกรรมการตั้ง “ศาลเตี้ย” กับประชาชนคนอื่น ๆ ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเรื่อยมา และยืนยันจะดำเนินการสอบสวนคดีเหล่านั้นด้วยความพยายามขั้นสูงสุด
ทั้งนี้กัวเจียฉวน (Kwok Ka-chuen) หัวหน้าผู้กำกับการประจำกองสารนิเทศตำรวจ แถลงว่าตำรวจรู้สึกตกใจอย่างยิ่ง สำหรับกรณีผู้ก่อจลาจลกระทำการโดยพลการและทำร้ายประชาชนที่มีมุมมองทางการเมืองแตกต่างกัน
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีรายงานพฤติกรรมของผู้ก่อจลาจลที่ตั้งศาลเตี้ยตัดสินผู้อื่นในย่านมงก๊ก เขตเกาลูน อย่างน้อย 2 ครั้ง โดยช่วงเช้าวันจันทร์ (2 ธ.ค.) ชายคนหนึ่งถูกทำร้ายขณะถ่ายรูปผู้ก่อจลาจล โดยผู้ก่อจลาจลยังพยายามขโมยโทรศัพท์มือถืออีกด้วย
ส่วนอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สร้างตื่นตกใจแก่ผู้รับรู้เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (1 ธ.ค.) ชายวัยกลางคนถูกผู้ก่อจลาจลตีศีรษะด้วยฝาท่อ ขณะเขาอาสาเข้าไปเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางที่ผู้ก่อจลาจลตั้งไว้ โดยกัวชี้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการฆาตกรรม
กัวกล่าวว่าสิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าคือชาวเน็ตบางส่วนกลับด่าทอและล้อเลียนเหยื่อบนโลกออนไลน์ ซึ่งหากประชาชนยังคงยินยอมรับความรุนแรงเช่นนี้ จิตสำนึกของการปฏิบัติตามกฎหมายอาจลดลง สวนทางกับอาชญากรรมความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี กัวระบุว่าตำรวจถือว่าคดีความทั้งหมดที่เกี่ยวพันกับพฤติกรรมการตั้งศาลเตี้ยเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างมาก และจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีความเหล่านั้นด้วยความพยายามขั้นสูงสุด
ตำรวจได้จับกุมกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรณีทำร้ายผู้สื่อข่าวจากแผ่นดินใหญ่ในท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงเมื่อเดือนสิงหาคม กรณีทำร้ายคนขับรถแท็กซี่ในย่านซัมโสยโป๋ว (Sham Shui Po) เมื่อเดือนตุลาคม และกรณีจุดไฟเผาชายคนหนึ่งใกล้สถานีรถไฟใต้ดินเมื่อเดือนพฤศจิกายน
“ผมมองแง่ดีว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมเหนื่อยหน่ายกับการก่อจลาจล ซึ่งทำลายฮ่องกงอย่างย่อยยับตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีสโลแกนทางการเมืองใดจะมาสนับสนุนอาชญากรรมอย่างการวางเพลิง การสร้างความเสียหาย และการทำร้ายร่างกายได้” กัวกล่าว
“ความไม่สงบที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบหนักหน่วงต่อสังคม หากเราไม่สร้างความชัดเจนในการหยุดยั้งผู้ก่อจลาจลหัวรุนแรงทั้งหมด ทุกคนจะตกเป็นเหยื่อ เราไม่ควรปล่อยให้ความรุนแรงจับเราเป็นตัวประกัน”