ประเด็นน่าสนใจ
- วิดีโอสามารถบันทึกได้หากไม่เป็นการขัดขวางการทำงาน จนท.
- จนท. ต้องไม่ปิดบังใบหน้าระหว่างทำการตรวจค้น
- ข้อปฏิบัตินี้ไม่ไห้หวังให้จ้องเอาผิด จนท. แต่เป็นการป้องกันหากเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน
ในช่วงวันที่ผ่านมา โลกออนไลน์ได้พากันส่งต่อข้อความจากเพจ สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความชื่อดังอีกครั้ง หลังจากที่เคยโพสต์ไว้ในปี 2017 ที่ผ่านมา ถึงข้อปฏิบัติในการเตรียมพร้อมหากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเข้าตรวจค้นระหว่างการเดินทาง
เนื่องจากในช่วงนี้มีประชาชนไม่น้อยที่กำลังเตรียมตัวเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 โดยข้อปฏิบัติต่าง ๆ ที่ ทนายคนดังระบุไว้มี ดังนี้
- ถ้าเราถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอไว้โดยไม่เป็นการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่นั้นต้องขอเรียนว่าเราสามารถกระทำได้โดยชอบเพราะถือว่าเป็นการป้องกันสิทธิ์ของตนได้โดยชอบด้วยกฎหมาย!!!
- การถ่ายภาพหรือบันทึกวิดี โอขณะตรวจค้นนั้นจะมีทั้งผลดีและผลเสียก็ให้เราจดแจ้งแก่ เจ้าหน้าที่ให้ ทราบเลยว่าถ้าเรามีสิ่งของผิดกฎหมายก็จะได้เป็นพยานหลักฐานดำเนินคดีกับตัวของเราเอง แต่ถ้าไม่มีก็จะเป็น หลักฐานในการยืนยันความบริสุทธิ์ของตนจริงหรือไม่!!!
- ก่อนการตรวจค้นเราก็ต้องขอให้เจ้าหน้าที่แสดงความบริสุทธิ์ใจเช่นเดียวกันเช่นแสดงบัตรประจำตัว, ข้าราช การถลกแขนเสื้อแขนยาวขึ้น,ล้วงกระเป๋าเสื้อควักออกมา,
ล้วง กระ เป๋า กางเกงสองข้างควักออกมาเพื่อให้เห็นว่าไม่มีสิ่งซุกซ่อนอยู่ และขอให้เจ้าหน้าที่ที่ตรวจค้นและเราต่างร่วมกันถ่ายภาพวิดีโอไว้พร้อมกัน เพื่อเป็นหลักฐานทั้งสองฝ่าย!!! - เจ้าหน้าที่ที่ตรวจค้นจะต้องแสดงตนโดยเปิดเผย มิใช่ใส่หน้ากากคุมหน้าหรือสวมหมวกไอ้โม่ง อันเป็นข้อพิรุธหรือข้อสงสัยของผู้สัญจรไปมา อันไปสู่การวิตกหรือกังวลใดใดต่อการตรวจค้นในครั้งนั้น
- อย่าอาย ให้ร้องดังๆ “ช่วยด้วยๆๆ” ให้คนมอง แล้วเอาวิกฤต เป็นโอกาส ให้ ไทยมุง ใครก็ได้ ช่วยถ่ายวีดีโอไว้ขณะนัน
- ให้บุคคลที่แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน หรือผู้ช่วยเจ้าพนักงานฯ นั้น ต้องแสดง บัตรประจำตัว ทุกคน แล้วให้ไทยมุง ช่วยๆกัน ถ่ายภาพหรือถ่ายคลิปส์ไว้ พร้อมอ่านชื่อ~สกุล ดังๆ และ สังกัด ของแต่ละคนดังๆๆ!!!
- ตัวเรา หรือร้องขอให้ไทยมุงช่วยโทร แจ้ง191หรือ ตำรวจท้องที่ หรือนักข่าว, มายังที่เกิดเหตุ
- ให้เจ้าพนักงาน ที่จะทำการตรวจค้น เรานั้น โดยเราขอให้แต่ละบุคคล ถลกแขนเสื้อ ขึ้นให้หมด ทุกคน และถลกกระ เป๋ากางเกงออกให้ดูด้วย พร้อม ให้ไทยมุง ช่วยบันทึกภาพหรือบันทึกวิดีโอไว้!!!
- ตัวเรา ก็ต้อง แสดงความบริสุทธิ์ใจ เช่นกัน เช่น ถลก กระเป๋ากางเกง ทั้งสองข้าง ออก ให้เจ้า พนักงานดู!!!
- หาทางรีบติดต่อญาติหรือคนใกล้ชิดให้ได้เร็วที่สุดให้มาหาเราณที่เกิดเหตุ หรือณ จุดเกิดเหตุ สมมติว่าถ้าเราอยู่ตัวคนเดียวตะโกนดังว่า ขอให้พี่ๆไทยมุงอย่าเพิ่งไปไหนอยู่กันเยอะๆ ได้โปรดอยู่ เป็นเพื่อนก่อน,
- ถ้าเรา ถูกควบคุมตัว ถ้าของกลาง มิใช่ ของๆเราห้ามหยิบ ห้ามจับ ห้ามแตะ เด็ดขาดขอย้ำๆๆ,
- อย่าไปกลัว ถูกซ้อม, อย่าไปกลัว ถูก ข่มขู่ ,ถ้าเราไม่ผิด นั้น อย่าลงชื่อใดๆในเอกสารทั้งสิ้นและถ้าจำต้องลงชื่อในเอกสารใดๆและมีหลายแผ่นนั้นขอให้อ่านช้า ๆ
และอ่านให้เข้าใจแต่ละหน้าซึ่งถ้าถ้อยคำหรือข้อความไม่ใช่หรือไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงแล้วนั้นต้องขอให้แก้ไขให้เสร็จสิ้นเสียก่อนอล้วจึงลงชื่อย่อ ๆ แต่ละหน้า ๆ เพื่อป้องกันการแก้ไขหรือเพิ่มเติม!!! - ถ้าเรา ไม่ได้กระทำความผิดอย่าชี้จุด เกิดเหตุให้ถ่ายภาพหรืออย่าชี้ของกลาง ถ้าไม่ใช่ของเราอย่าชี้เด็ดขาด
- ขณะถูกควบคุมให้ญาติ,พี่น้อง,คนไว้วางใจ นั่งเฝ้าจนกว่าจะนำตัวส่งศาล
- ขณะให้การใดๆ ร้องขอให้จนท.ติด ตามผู้ซึ่งไว้วางใจ หรือ ทนาย ความ เข้าฟังการสอบสวนจนกว่าจะแล้วเสร็จ!!!
- ถ้าเราไม่ผิดให้สวมวิญญาณนักร้อง (เรียน)เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน และหน่วยงานของรัฐหรือใช้สิทธิ์ทางศาลตามกระบวนการยุติธรรม!!!
ทั้งนี้ข้อแนะนำดังกล่าว ก็เพื่อเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 บัญญัติว่า
” ผู้ใดจำต้อง กระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิ์ของตน หรือ ของผู้อื่นให้พ้นภยันตราย ซึ่งเกิดจากการประทุษร้าย อันละเมิดต่อกฎหมาย และ เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้น เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย “
ขณะเดียวกันก็เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 บัญญัติว่า ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์ สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทด แทนเพื่อการนั้น