ประเด็นสำคัญ
- เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูกไปตกในทะเลด้านตะวันออก นอกเขตญี่ปุ่น-เกาหลีใต้
- โดยขีปนาวุธทั้งสองลูกคาดว่า เป็น รุ่น KN-23 ที่มีการยิงทดสอบไปเมื่อเดือน มี.ค.64 ที่ผ่านมา
- นักวิเคราะห์พบว่า มีการพัฒนาทำให้มีพิสัยในการทำการเยอะขึ้น
…
วันนี้ ( 15 ก.ย. ) เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ หรือ short-range ballistic missiles จำนวน 2 ลูก ข้ามไปตกยังบริเวณทะเลทางตะวันออกนอกเขตเศรษฐกิจของญี่ปุ่น – เกาหลีใต้
โดยขีปนาวุธลูกแรกถูกยิงออกมาบริเวณตอนกลางของประเทศในเขต Yangdok ช่วงเวลาประมาณ 12.34 น. ก่อนตามด้วยลูกที่ 2 ในเวลาไล่เลี่ยกัน ขีปนาวุธที่ถูกยิงออกมาได้บินข้ามมาตกในทะเลเป็นระยะทางราว 800 กม. ที่ระดับความสูงที่สุดราว 60 กม.
ซึ่งการยิงทดสอบในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังจากที่เกาหลีเหนือได้ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล 1,500 กม.
สำหรับขีปนาวุธที่มีการยิงทดสอบในครั้งนี้ รายงานของทางการเกาหลีใต้คาดว่า น่าจะเป็นขีปนาวุธรุ่น KN-23 ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมจากรุ่นเดิม โดยขีปนาวุธ รุ่นนี้ เกาหลีเหนือเปิดตัวครั้งแรกเมื่อราวเดือนกุมภาพันธ์ 2018 โดยในการยิงทดสอบเมื่อเดือน พ.ค. 2019 พบว่า เป็นขีปนาวุธที่สามารถยิงได้ราว 450 – 690 กม. ที่ระดับความสูง 60 กม. เหนือพื้นดิน
และในปี 2019 ก็ได้มีการยิงทดสอบขีปนาวุธรุ่นนี้อยู่เป็นระยะ ๆ ก่อนที่จะเงียบหายไปพักใหญ่ ก่อนที่กลับมาปรากฎตัวอีกครั้งในการสวนสนาม เมื่อ 15 ม.ค. 2021ที่ผ่านมา โดยนักวิเคราะห์พบว่า
ขีปนาวุธรุ่น KN-23 ของเกาหลีเหนือมีการปรับปรุงเพิ่มเติม โดยมีลักษณะยาวขึ้นกว่าเดิม มีความเรียวมากขึ้น และในช่วงเดือน มี.ค. 2021 ที่ผ่านมา ได้มีการยิงทดสอบอีกครั้งหนึ่ง และเกาหลีเหนืออ้างว่า สามารถทำระยะได้ไกลราว 600 กม. สามารถติดตั้งหัวรบขนาด 2.5 ตัน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของเกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ให้ความเห็นจากการทดสอบเมื่อเดือน มีนาคม ที่ผ่นมาว่า ไม่น่าจะมีพิสัยทำการได้ไกลถึง 600 กม. น่าจะทำได้เพียง 420-450 กม.เท่านั้น หากบรรทุกหัวรบขนาด 2.5 ตัน
แต่ในการยิงทดสอบครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (15 ก.ย.) จึงมีความเป็นไปได้ว่า ขีปนาวุธรุ่นนี้ ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมอีกครั้ง และมีระยะทำการที่ไกลขึ้น
ญี่ปุ่น ระบุ เป็นการทำลายความสงบสุขในภูมิภาค
หลังจากที่มีการยิงขีปนาวุธทดสอบทั้ง 2 ลูก ก็สร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้นในภูมิภาค โดยเฉพาะญี่ปุ่น ที่ได้ออกมาแถลงแสดงความไม่พอใจกับการยิงทดสอบที่เกิดขึ้นว่า การที่เกาหลีเหนือได้ยิงทดสอบขีปนาวุธหลายครั้งในช่วงที่ผ่นมา รวมถึงครั้งล่าสุดนี้ด้วย ถือเป็นปัญหาใหญ่ในภูมิภาค รวมถึงประชาคมโลกด้วย
นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือถือเป็นภัยคุกคามต่อญี่ปุ่นและภูมิภาคในแถบนี้ ถือเป็นการทำลายความสงบสุข-สันติภาพ รวมถึงเป็นการละเมิดมติของสหประชาติชาต ในการห้ามไม่ให้เกาหลีเหนือมีการทดลองนิวเคลียร์และขีปนาวุธ
ซึ่งทางการเกาหลีใต้ได้มีรายงานการตรวจพบว่า เกาหลีเหนือมีความเคลื่อนไหว ในการกลับมาพัฒนาโครงการด้านนิวเคลียร์อีกครั้งเมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้
รวมถึงการประกาศความสำเร็จในการพัฒนาขีปนาวุธ-การยิงทดสอบในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่เรือบรรทุกเครื่องบินควีนอลิซาเบธ ของสหราชอาณาจักรออกจากฐานทัพเรือในญี่ปุ่น
คาบสมุทรเกาหลีทวีความตึงเครียด
ในช่วงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่าน ทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ มีความเคลื่อนไหวด้านของการจัดหา และพัฒนาอาวุธอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายน 2021 นี้ เพียงไม่กี่สัปดาห์ เกาหลีเหนือได้รายงานความสำเร็จในการพัฒนาขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล ตามหลักการทดสอบยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำของเกาหลีใต้ เพียงไม่กี่วันเท่านั้น
นอกจากนี้ เกาหลีใต้ ยังได้มีแผนในการพัฒนาด้านอาวุธอย่างต่อเนื่อง เช่นโครงการพัฒนาขีปนาวุธที่ระบุว่า สามารถทำลายฐานยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือได้ทุกจุด, การเดินหน้างบประมาณทางด้านการทหารอีกกว่า 8.8 ล้านบ้าน รวมไปถึงการเดินหน้าอุตสาหกรรมทางการทหารมากขึ้น
เห็นได้จากเฉพาะในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เกาหลีใต้ได้บรรจุเรือดำน้ำและเรือฟรีเกต ที่ผลิตขึ้นเองในประเทศเกาหลีใต้ เข้าประจำการ และมีการนำออกฝึกทดสอบแล้ว
อีกทั้งในขณะนี้ นายหวัง อี้ รมว.การต่างประเทศของจีน ก็ยังอยู่ในระหว่างการเยือนกรุงโซล เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี กับประธานาธิบดี มุน แจ-อึน ด้วย
