ประเด็นน่าสนใจ
- เด็กชาวเยเมนเรียนหนังสือกลางสายลมหนาว และโรงเรียนที่เหลือเพียงซาก
- ยูนิเซฟ ระบุว่า สงครามการเมืองที่ยืดเยื้อนานเกือบ 5 ปี ได้ทำลายระบบการศึกษาของเยเมน
- เด็กที่อยู่ในวัยเล่าเรียน 2 ล้านคนไม่สามารถไปโรงเรียนได้ เด็กอีก 3.7 ล้านคนอาจไม่มีโอกาสเรียนอีก
ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่านและหอบเอาความหนาวเหน็บบาดลึกถึงกระดูก นักเรียนชั้นประถมราว 400 คนต้องนั่งเรียนหนังสือบนพื้นอันเย็นเฉียบ ในโรงเรียนที่เหลือเพียงเศษซากในย่านอัล-ราฮาบาห์ (Al-Rahabah) บริเวณนอกเมืองทางทิศเหนือของกรุงซานอา เมืองหลวงของเยเมน
“เราไม่มีเสื้อใส่ให้อบอุ่น แต่เราจะตั้งหน้าตั้งตาเรียนต่อไปแม้จะมีอุปสรรค” มาอีน อับดุลรับ (Maeen Abdulrab) นักเรียนวัย 8 ปี จากโรงเรียนแห่งหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว
เช่นเดียวกับนักเรียนจำนวนมาก ในแต่ละวัน อับดุลรับต้องเดินเท้าเป็นระยะทางไกลเพื่อมาโรงเรียน นอกจากนี้ นักเรียนหลายคนยังต้องเดินเท้าเปล่า เนื่องจากยากจนมากจนไม่มีแม้แต่รองเท้าจะใส่
ยูนิเซฟ (UNICEF) ระบุว่าสงครามการเมืองที่ยืดเยื้อนานเกือบ 5 ปี ได้ทำลายระบบการศึกษาของเยเมน ส่งผลให้เด็กที่อยู่ในวัยเล่าเรียน 2 ล้านคนไม่สามารถไปโรงเรียนได้ ขณะที่เด็กอีก 3.7 ล้านคนอาจไม่มีโอกาสเรียนอีก เนื่องจากไม่มีการจ่ายเงินเดือนให้ครู
นักเรียนที่โรงเรียนของอับดุลรับต้องเรียนหนังสือนอกอาคารเรียนที่เหลือเพียงซาก นับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นเมื่อปลายปี 2014 เมื่อกลุ่มกบฏฮูตีซึ่งเป็นพันธมิตรกับอิหร่านเข้ายึดกรุงซานาและเนรเทศรัฐบาลของประธานาธิบดีอาเบด รับโบ มานซูร์ ฮาดี (Abd-Rabbu Mansour Hadi) ที่ซาอุดีอาระเบียหนุนหลังออกไป
โรงเรียนจำนวนมากถูกระเบิดจากการโจมตีทางอากาศ หรือถูกถล่มจากการปะทะกันทางบก นักเรียนหลายพันคนต้องอาศัยเรียนใต้ร่มเงากำแพงที่พร้อมจะพังครืนลงมาทุกเมื่อ หรือนั่งเรียนในสนามของโรงเรียนที่เต็มไปด้วยสะเก็ดระเบิด
ฮัสซัน มาห์ดี นักเรียนอีกคนหนึ่งบอกเล่าถึงสภาพโรงเรียนที่เสียหายและอากาศอันหนาวเหน็บที่เขาต้องเผชิญจากการนั่งเรียนนอกห้องเรียน“พวกเราหนาวมาก แต่เราไม่มีเสื้อหนาวจะใส่”
นอกจากนี้ ครูเองก็ไม่มีโต๊ะและเก้าอี้เช่นกัน “ทั้งนักเรียนและครูต่างต้องทุกข์ทนจากการเรียนการสอนนอกห้องเรียนในช่วงฤดูหนาว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก” ทาฮา ฮุสเซน ครูคนหนึ่งกล่าว
แถลงการณ์ของยูนิเซฟเมื่อเดือนกันยายนระบุว่าโรงเรียนในเยเมนจำนวนหนึ่งในห้า ไม่สามารถใช้เป็นสถานศึกษาได้อีกต่อไป เนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรงจากความขัดแย้ง
แถลงการณ์ระบุว่า “เด็กที่ไม่ได้เรียนหนังสือต้องเผชิญความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นทุกรูปแบบ เช่น ถูกบังคับเข้าร่วมรบ แรงงานเด็ก หรือต้องแต่งงานตั้งแต่ยังเยาว์”
ขอบคุณข้อมูลจาก ซินหัวไทย