พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์

รองโฆษกตำรวจ เผยยังไม่พบหมายจับ ‘พ.ต.ท.ไวพจน์’ ในกองทว.

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. ชี้แจงกรณีที่สื่อมวลชนได้ตั้งประเด็นคำถามในการจับกุมตัว พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ หนึ่งในจำเลยที่ถูกศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก 4 ปี…

Home / NEWS / รองโฆษกตำรวจ เผยยังไม่พบหมายจับ ‘พ.ต.ท.ไวพจน์’ ในกองทว.

ประเด็นน่าสนใจ

  • รองโฆษก ตร. เผย ตรวจกองทะเบียนประวัติอาชญากร ยังไม่พบหมายจับ “พ.ต.ท.ไวพจน์”
  • ยืนยันกองบัญชาการตำรวจนครบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ หากได้รับเอกสารที่เกี่ยวข้อง ก็พร้อมจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. ชี้แจงกรณีที่สื่อมวลชนได้ตั้งประเด็นคำถามในการจับกุมตัว พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ หนึ่งในจำเลยที่ถูกศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก 4 ปี และศาลจังหวัดพัทยาได้ออกหมายจับกรณีไม่มาฟังคำพิพากษา นั้น

ซึ่งจากกรณีศาลจังหวัดพัทยา ได้ออกหมายจับพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่มาฟังคำพิพากษาคดีบุกล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยาเมื่อปี 2552 โดยนัดให้ฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 15 มกราคม 2563 ต่อมาวันที่ 4 ธันวาคม พ.ต.ท.ไวพจน์ ยังคงเดินทางมาร่วมประชุมสภาฯ นั้น อีกทั้งที่ตั้งของรัฐสภานั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ของ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เพตรา ผบช.น. ได้สั่งการเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.62 ให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ทำบันทึกสอบถามไปยังศาลจังหวัดพัทยา เพื่อขอตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับหมายจับ

แต่ในขณะนี้ เบื้องต้น จากการตรวจสอบของกองทะเบียนประวัติอาชญากร (ทว.) และ กองบังคับการในถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหานั้น พบว่ายังไม่ได้รับเอกสารที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใดซึ่งอยู่ในระหว่างการประสานงานในขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป หาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับแจ้งหนังสือและเอกสารสำเนาหมายจับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ก็พร้อมที่จะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับหมายจับแล้ว การดำเนินการตามหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา(ส.ส.). ในระหว่างสมัยประชุม จะต้องได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิกเสียก่อน ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ หากได้รับเอกสารที่เกี่ยวข้อง ก็พร้อมจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในการจับกุม ส.ส. ตามหมายจับของศาลและเมื่อจับกุมแล้ว ผู้ต้องหาก็จะมีสิทธิต่างๆตามกฎหมายในชั้นจับกุม ตามปกติเหมือนคดีอื่นทุกประการ โดยไม่มีการเลือกปฎิบัติ