7 วันอันตราย ปีใหม่

รอง ผบ.ตร. เปิดโครงการ “ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม” กลับบ้านปลอดภัย ช่วงปีใหม่

ที่ปั๊มปตท. ร.1 รอ. ถนนวิภาวดีรังสิต กทม.พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายเควนติน จ๊อบ กรรมการผู้จัดการบริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด ประเทศไทย…

Home / NEWS / รอง ผบ.ตร. เปิดโครงการ “ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม” กลับบ้านปลอดภัย ช่วงปีใหม่

ประเด็นน่าสนใจ

  • รอง ผบ.ตร. ร่วมกันรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม ร่วมกันรับผิดชอบสังคม”
  • เพื่อปลูกจิตสำนึกในเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่
  • ในช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ 2563 ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 62- 2 ม.ค. 63

ที่ปั๊มปตท. ร.1 รอ. ถนนวิภาวดีรังสิต กทม.พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายเควนติน จ๊อบ กรรมการผู้จัดการบริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด ประเทศไทย จำกัด บริษัทนาคาธิบดี จำกัด เจ้าหน้าที่จากกองบังคับการตำรวจนครบาล2 ตำรวจทางหลวง ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่กู้ภัยประมาณ 150 นาย โดยมีการแต่งตัวในชุดยมทูต ยมบาล ร่วมกันรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม ร่วมกันรับผิดชอบสังคม”เพื่อปลูกจิตสำนึกในเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนให้แก่ประชาชนชาวไทยที่จะ เดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2563 ที่กำลังจะถึงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง 7 วันอันตราย

พล.ต.อ.ดร.วิระชัย กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความตั้งใจที่จะสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนโดยร่วมมือกับหน่วยงานภาคเอกชนในการสนับสนุนโครงการ ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคม และรักษาวินัยจราจรโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดยาวที่มีผู้สัญจรไปมาเป็นจำนวนมากและในช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ 2563 ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 62- 2 ม.ค. 63 คาดว่าจะมีรถรถยนต์เข้า-ออก กทม. กว่า 8.6 ล้านคัน และเมื่อช่วง 7 วันอันตรายของปีใหม่ 2562ที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุรวม 3,791 ครั้ง ตาย 463 ราย เจ็บ 3,892 ราย อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมาที่สุดมาจาก ดื่มแล้วขับและขับรถเร็ว ดังนั้นทางเราจึงได้ร่วมกันรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่มเพื่อให้“แอลกอฮอล์”เป็นศูนย์ตามท้องถนน

ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมุ่งเน้นในเรื่องของการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชน พิจารณาแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัยฯ ต่างๆ และลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ตามนโยบายรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำหนดให้ “ปีใหม่นี้จะต้องมีผู้เสียชีวิตทางถนนลดลงจากค่าเฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลังมา และในขณะเดียวกันก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย นอกจากนี้เรายังได้กำหนด 5 มาตรการอำนวยความสะดวก ได้แก่

  1. แผนการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทาง 
  2. อำนวยความสะดวกด้านการจราจร
  3. จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถานีตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่ให้บริการประชาชนภายในจุกพักรถ 
  4. อำนวยความสะดวกด้านข้อมูลการจราจรที่สายด่วน 1179  ตลอด 24 ชั่วโมง
  5. จัดให้บริการประชาชน โดยตั้งจุดบริการในสถานีตำรวจทางหลวง เส้นทางสำคัญ เพื่อให้บริการแก่ผู้เดินทางตลอด 24 ชั่วโมง

รวมทั้งมีจุดบริการร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อให้บริการช่วยเหลือผู้เดินทางกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน บริการที่พักผ่อน น้ำดื่ม บริการข้อมูลต่างๆ และบริการตรวจสภาพรถไม่คิดค่าใช้จ่าย

พล.ต.อ.ดร.วิระชัย กว่าต่อว่า การบังคับใช้กฎหมายจะเข้มงวดในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ทั้ง 2 ฝ่าย กรณีเกิดอุบัติเหตุจราจรเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดกับผู้กระทำผิดที่เมาแล้วขับหรือแข่งรถในทางจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ความตาย นอกจากนี้ยังบังคับใช้ 10 ร. คือ ขับขี่รถเร็ว, ขับรถย้อนศร, ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณจราจร, ขับรถไม่คาดเข็มขัดนิรภัย, ขับรถไม่มีใบอนุญาต, ขับรถแซงในที่คับขัน, ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุรา, ขับขี่รถและผู้โดยสารไม่สวมหมวกนิรภัย, ขับรถจักรยานยนต์ในลักษณะที่ไม่ปลอดภัย, ขับรถใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่,

นอกจากนี้ขนส่งยังให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบการกระทำผิดของรถประเภทต่าง ๆ ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ซึ่งกรมการขนส่งทางบก จะแบ่งรางวัลนำจับ 50% แก่ผู้แจ้งเบาะแสให้แก่เจ้าหน้าที่ จนสามารถดำเนินการกับผู้กระทำผิดได้ จุดประสงค์เพื่อให้คนไทยตระหนักถึงความมีวินัย เคารพกฎหมายจราจร รวมถึงเคารพสิทธิของบุคคลอื่นด้วย หากทุกคนใช้รถอย่างมีระเบียบวินัย ทุกคนก็จะปลอดภัย หากเริ่มต้นที่ตัวเองได้ก็จะทำให้คนอื่นๆ ปลอดภัยไปด้วย

นายเควนติน จ๊อบ กรรมการผู้จัดการบริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า​ วัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อสนับสนุนการรณรงค์ที่มีส่วนร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือกับหน่วยงานภาครัฐบาลอย่างเป็นทางการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค  ที่มีความเสี่ยง ลดการบริโภคที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุอันเกิดมาจากดื่มแล้วขับ ความสำคัญของโครงการจากการรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม” ร่วมรับผิดชอบสังคมลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปลายปี2563

ส่วนพื้นที่ร่วมรณรงค์  กรุงเทพมหานคร และ 4 จังหวัดที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่  จังหวัดเชียงใหม่ ,จังหวัดขอนแก่น,จังหวัดพิษณุโลก,จังหวัดชลบุรี  กิจกรรมของการรณรงค์โครงการ “ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม ร่วมรับผิดชอบสังคม” มีการแจกแผ่น หอมรถยนต์,  หมวกกันน็อคครึ่งใบ,กระเป๋ากันง่วงให้กับประชาชน

อย่างไรก็ตามของตำรวจก็มี กระบองไฟ ไฟฉาย  อุปกรณ์ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และจากแผนงานรณรงค์ในครั้งนี้จะเน้นยุทธวิธีการเข้าถึงกลุ่มผู้เป้าหมายผู้ใช้รถบนทางหลวงโดยตรง​ แบบเจาะจงควบคู่กับการประชาสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ “แอลกอฮอล์”เป็นศูนย์ ตามท้องถนน