ประเด็นน่าสนใจ
- หัวหน้าวิเชียร ที่ขอย้ายออกจากพื้นที่เพราะปัญหาด้านสุขภาพ ในอนาคตต้องผ่าตัด ริดสีดวงทวาร
- หมอเคยแนะนำให้เจ้าตัวผ่าตัดมาแล้ว แต่ยังติดงานจึงจำเป็นต้องเลื่อน
- หัวหน้าวิเชียร ยืนยันไม่ได้ย้ายเพราะแรงกดดัน เป็นการขอย้ายตามปกติ เพราะอยากอยู่ใกล้ครอบครัวและอยากรักษาสุขภาพ
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จัดแถลงข่าวกรณี นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ขอย้ายออกจากพื้นที่
นายวิเชียร เปิดเผยว่า เรื่องการย้ายเป็นวิถีข้าราชการ คดีเสือดำศาลอุทธรณ์ก็ได้ตัดสินแล้ว ส่วนตัวไม่ได้รับแรงกดดันจากคดีที่เกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาไม่เคยทอดทิ้ง ไม่มีแรงกดดัน
ปัญหาหลักของการขอย้ายตัวเอง เพราะตนสุขภาพไม่ดี ป่วยเป็นริดสีดวงทวาร ซึ่งระยะทางทุ่งใหญ่ค่อนข้างไกลจากโรงพยาบาล เป็นทางออฟโรดจึงเดินทางลำบาก ส่งผลกระทบต่อโรคที่เป็นอยู่ ซึ่งการรักษาตัวก็เป็นไปอย่างยากลำบาก ในอนาคตต้องมีการผ่าตัด
ก่อนหน้านี้เคยรักษาด้วยยาแต่ยังไม่ดี อาการป่วยนี้เป็นมา 1 ปีแล้ว ตนได้ปรึกษาแพทย์และกินยามาตลอด ซึ่งแพทย ก็อยากให้เข้ารับการผ่าตัด ตนยังไม่พร้อม กลัวการพักฟื้นตัวจะนาน ทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่องก็เลยอดทนไปก่อน
นอกจากนี้ตนก็มีครอบครัว ลูกชายจะ 1 ขวบแล้ว คิดถึงลูกชาย ระยะทางจากทุ่งใหญ่ค่อนข้างไกล คิดว่าการทำงานในพื้นที่ที่ซอฟล์ลง จะได้ช่วยเหลือภรรยาดูแลครอบครัวได้
สำหรับข่าวในโซเชียลที่แชร์กันว่า ถูกกดดันให้ย้าย ก็ไม่เป็นอย่างที่แชร์ การขอย้ายก็อยากจะทำงานในภาคไปอีสาน ท้ายที่สุดก็ขึ้นอยู่กับอธิบดีกรมป่าไม้จะอนุมัติให้ไปที่ใด
ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชยันว่า สถานที่ที่ย้ายไปต้องเป็นสถานที่ใกล้ที่พัก และใกล้โรงพยาบาล เพื่อง่ายต่อการรักษาตัว
โดยนายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยืนยันว่า จำเป็นต้องแถลงร่วมกับนายวิเชียรวันนี้ เพื่อป้องกันสังคมเข้าใจผิด และเกรงจะกระพือข่าวในสังคมออนไลน์จนเกิดความเข้าใจผิดทั้งตัวนายวิเชียร และกรมอุทยานฯ พร้อมยืนยันว่า การขอย้ายของนายวิเชียร ไม่ใช่มาจากการทำคดีเสือดำ
นอกจากนี้ ทางผู้บริหารกรมอุทยานฯ ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะให้นายวิเชียร ย้ายไปที่ใด เนื่องจากต้องรอฟังผลจากแพทย์ที่รักษานายวิเชียรก่อน จึงจะพิจารณาพื้นที่ ที่ย้ายไปว่า ว่าอยู่ไกลโรงพยาบาล หรือเป็นอุปสรรคต่อการรักษาตัวหรือไม่ เพราะต้องติดตามอาการต่อเนื่องด้วย ต้องดูแลเรื่องสุขภาพคนของเราให้ดีก่อน แต่ส่วนตัวเห็นว่า ตัวนายวิเชียร ยังมีศักยภาพในการปกป้องผืนป่าในภาคสนามมากกว่าจะมาอยู่ประจำที่กรมอุทยานฯ หรือ ประจำสำนัก