จำลอง ศรีเมือง พิภพ ธงไชย สนธิ ลิ้มทองกุล สมศักดิ์ โกศัยสุข สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สุริยะใส กตะศิลา แกนนำพันธมิตร

ยกฟ้อง 6 แกนนำพันธมิตรชุมนุมปี 51 เหตุฟ้องซ้ำ – สั่งจำคุก 3 ไม่รอลงอาญา

ประเด็นสำคัญ ศาลยกฟ้อง 6 แกนนำพันธมิตร ในการชุมนุมปิดถนน-สถานที่ราชการปี 51 เนื่องจากเป็นการฟ้องซ้ำกับคดีที่มีคำตัดสินแล้ว ได้แก่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายพิภพ ธงไชย, นายสมเกียรติ…

Home / NEWS / ยกฟ้อง 6 แกนนำพันธมิตรชุมนุมปี 51 เหตุฟ้องซ้ำ – สั่งจำคุก 3 ไม่รอลงอาญา

ประเด็นสำคัญ

  • ศาลยกฟ้อง 6 แกนนำพันธมิตร ในการชุมนุมปิดถนน-สถานที่ราชการปี 51 เนื่องจากเป็นการฟ้องซ้ำกับคดีที่มีคำตัดสินแล้ว ได้แก่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายพิภพ ธงไชย, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสุริยะใส กตะศิลา
  • ให้จำคุกอีก 3 แกนนำคนละ 1 ปี ลดโทษเหลือจำคุก 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ได้แก่ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี และนายเทิดภูมิ ใจดี

วันนี้ ( 31ส.ค.64 ) ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาฯ หลังศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ อ.3973/2558 ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ชุมนุมดาวกระจาย ปี 2551 ขับไล่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี

โดยศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษากันแล้ว มีประเด็นวินิจฉัยว่า

คดีที่อัยการโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1-6 เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีหมายเลขแดงที่ อ.1877/2558 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.1878/2558 หรือไม่ เห็นว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นการกดดันให้รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ลาออก ซึ่งโจทก์ฟ้องเป็นหมายเลขแดงที่ อ.1877/2558 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.1878/2558 ไปแล้วกับความผิดในคดีนี้ ซึ่งเป็นความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปแล้วก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ 215 ดังนั้นจึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 การที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1-6 อีก ถือว่าเป็นคดีที่มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว โจทก์จึงนำการกระทำความผิดในคราวเดียวกันมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1-6 เป็นคดีนี้อีกไม่ได้จึงเป็นการฟ้องซ้ำ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย 

ทั้งนี้จำเลยที่ 7-9 นั้น ได้แก่ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี และนายเทิดภูมิ ใจดี เห็นว่า ได้ขึ้นปราศรัยเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาล นอกจากนี้จำเลยที่ 7 ยังเดินทางไปชุมนุมปิดถนนมิตรภาพ จ.นครราชสีมา ส่วนจำเลยที่ 8 นำผู้ชุมนุมไปปิดล้อมที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย

การกระทำของจำเลยที่ 7-9 เป็นการร่วมชุมนุมที่มีการปิดกั้นการจราจร จึงพิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 7-9 เป็นการมั่วสุมก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 116  ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 116 อนุ 2 และอนุ 3 ซึ่งเป็นบทหนักสุด ให้จำคุกคนละ 1 ปี แต่มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1ใน 3 คงจำคุกคนละ 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จังได้ควบคุมตัวจำเลยที่ 7-9 ไปยังเรือนจำ เพื่อรับโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกา


ภาพ – วิชาญ โพธิ