ข่าวจังหวัดปทุมธานี ข่าวสดวันนี้ ปาดคอ

แจ้งข้อหาเอาผิดแล้ว นักเรียนใช้เศษแก้วปาดคอเพื่อนในโรงเรียน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีทำร้ายร่างกาย จากกรณีที่โลกออนไลน์ ออกมาเปิดเผยเรื่องราวนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาคนหนึ่งปาดคอเพื่อนนักเรียนด้วยกันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (20 ธันวาคม 2562) ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี นั้น…

Home / NEWS / แจ้งข้อหาเอาผิดแล้ว นักเรียนใช้เศษแก้วปาดคอเพื่อนในโรงเรียน

ประเด็นน่าสนใจ

  • เกิดเหตุสยอง นร.มัธยม ใช้เศษแก้วปาดคอเพื่อน ในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ปทุมธานี
  • เรื่องนี้ฉาวขึ้นมาเป็นเพราะผู้ก่อเหตุโพสต์ไม่สะทกสะท้านบอกที่ทำไปเพราะห้ามตัวเองไม่ได้
  • ผู้คนที่ทราบข่าวต่างก็ตกใจพร้อมเรียกร้องให้ตร.เร่งตามตัวมาดำเนินคดี เพราะมีข่าวลือว่าโรงเรียนมีการปิดข่าว และตร.ละเลยหน้าที่
  • ทาง ตร. จึงออกมาโต้ว่าไม่เป็นความจริง และได้แจ้งข้อหากับผู้ก่อเหตุแล้ว หลังผู้บาดเจ็บมาแจ้งความ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีทำร้ายร่างกาย จากกรณีที่โลกออนไลน์ ออกมาเปิดเผยเรื่องราวนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาคนหนึ่งปาดคอเพื่อนนักเรียนด้วยกันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (20 ธันวาคม 2562) ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี นั้น

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 62 ผู้เสียหายอายุ 18 ปี ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานีให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมโรงเรียนเดียวกันแล้ว

ซึ่งในเรื่องนี้ทางพนักงานสอบสวน ไม่ได้ละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ผ่านโลกออนไลน์ เพราะได้สอบปากคำผู้เสียหาย และลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ไว้แล้ว

อีกทั้งยังได้เรียกผู้ก่อเหตุมาสอบสวนและแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีแล้ว ในความผิดฐาน ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อาญา มาตรา 295

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับพนักงานสอบสวน ในการอำนวยความยุติธรรม ประชาชนที่มาติดต่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษโดยตลอด

ให้ดำเนินการด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม นับตั้งแต่ชั้นสืบสวนสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งทางนิติวิทยาศาสตร์ หรือ พยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับการกระทำความผิดของผู้ต้องหา

ตลอดจน การสอบปากคำให้สิ้นกระแสความทุกประเด็น เพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัยในคดีและการเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น และสร้างความมั่นใจ ความเชื่อมั่นให้กับประชาชน