ฉายารัฐบาล ฉายารัฐบาลปี 2562

สื่อทำเนียบ ตั้งฉายา ‘บิ๊กตู่-อิเหนาเมาหมัด’ รัฐบาลเชียงกง

การตั้งฉายารัฐบาล และรัฐมนตรีประจำปี ของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติสืบต่อกันมา เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานรัฐบาล จากประสบการณ์การทำงานที่ปรากฏต่อสื่อสาธารณะ โดยมิได้มีอคติ หรือ เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ใดผู้หนึ่ง ทั้งหมดเกิดจากมติส่วนรวมของสื่อมวลชน แต่ด้วยประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่เอื้ออำนวย และมีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จึงทำให้ว่างเว้นไม่ได้ตั้งฉายามา 6 ปี…

Home / NEWS / สื่อทำเนียบ ตั้งฉายา ‘บิ๊กตู่-อิเหนาเมาหมัด’ รัฐบาลเชียงกง

ประเด็นน่าสนใจ

  • สื่อมวลชนสายทำเนียบตั้งฉายารัฐบาล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 10 คน
  • ซึ่งเป็นการตั้งฉายาให้ครั้งแรกในรอบ 6 ปี
  • รัฐบาลได้รับฉายา ‘รัฐบาลเชียงกง’ ‘พลเอกประยุทธ์’ ได้รับฉายา ‘อิเหนาเมาหมัด’

การตั้งฉายารัฐบาล และรัฐมนตรีประจำปี ของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติสืบต่อกันมา เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานรัฐบาล จากประสบการณ์การทำงานที่ปรากฏต่อสื่อสาธารณะ โดยมิได้มีอคติ หรือ เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ใดผู้หนึ่ง ทั้งหมดเกิดจากมติส่วนรวมของสื่อมวลชน แต่ด้วยประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่เอื้ออำนวย และมีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จึงทำให้ว่างเว้นไม่ได้ตั้งฉายามา 6 ปี

ดังนั้นในปีนี้ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ได้ประชุมและมีมติตั้งฉายารัฐบาล รัฐมนตรี และ วาทะแห่งปี ประจำปี 2562 ดังนี้

รัฐเชียงกง

ฉายารัฐบาล : รัฐเชียงกง โดย รัฐเชียงกง สะท้อนภาพรัฐบาลคล้ายแหล่งค้าขายอะไหล่มือสอง ประกอบกันขึ้นจาก ข้าราชการยุคก่อน และนักการเมืองหน้าเก่า แม้ใช้ประโยชน์ได้ แต่ยังขาดความน่าเชื่อถือ สะท้อนความไม่มีเสถียรภาพ

อิเหนาเมาหมัด

ฉายาพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม : อิเหนาเมาหมัด โดยเป็นยกคำสุภาษิตไทย ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เปรียบแนวทางปฎิบัติ และ นโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่เห็นได้ชัดหลายเรื่อง มักจะตำหนิ หรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต และ สุดท้ายก็กลับมาทำเอง เช่น โครงการลักษณะประชานิยม บอกไม่เป็นนายกฯ สุดท้ายก็กลับมา, ไม่อยากเล่นการเมือง ก็หนีไม่พ้น, หนีการตอบกระทู้ในสภา , มองข้ามข้อครหาเรื่องงูเห่าการเมือง การซื้อตัว ส.ส.

ตั้งคนมีคดีความที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองเป็นรัฐมนตรี , แต่งตั้งญาติพี่น้องเข้าสภา ,ยอมให้พรรคที่สนับสนุนใช้นโยบายค่าแรงหาเสียง ทั้งที่เคยตำหนิว่า ว่าการขึ้นค่าแรงเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน อีกทั้งไม่สามารถควบคุมให้รัฐบาลมีความเป็นเอกภาพ เกิดปัญหาติดขัดการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงงบประมาณที่ยังไม่ผ่านความเห็นชอบ และ ฝ่ายตรงข้ามรุมเร้าคล้ายโดนระดมหมัดเข้าถาโถม แม้พยายามสวนหมัดสู้ แต่หลายครั้งถึงกับมึนชกโดนตนเองก็มี

พี่ใหญ่สายเอ็นฯ

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี : พี่ใหญ่สายเอ็นฯ ในฐานะพี่ใหญ่ของ สาม ป. นอกจากจะต้องคอยดูแลน้องรักแล้ว ยังต้องเอ็นเตอร์เทนพรรคร่วมรัฐบาล และ ต้องเอ็นดู คนในพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้รับมอบหน้าที่ประธานยุทธศาสตร์ทุกด้าน ตั้งแต่คดีระหว่างประเทศยันฟาร์มไก่ ทำให้งานด้านความมั่นคงที่ได้รับมอบหมายให้ดูแล เหลือเพียงเดินสายเปิดงานอีเวนต์ ประชุมทั่วไปเท่านั้น

ชายน้อยประชารัฐ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี : ชายน้อยประชารัฐ คือ เจ้าของโปรโจคโครงการประชารัฐ ที่หวังเดินหน้าต่อยอดในรัฐบาลนี้ กลับทำไม่ได้อย่างที่หวัง ถูกริบอำนาจงานด้านเศรษฐกิจหลายกระทรวง คล้ายคนง่อยเปลี้ยเสียขา ขาดมือไม้ในการทำงาน ทำให้เดินหน้าโครงการไม่ได้ 100% ถึงกับออกปากว่า ตอนนี้เหมือนคนที่เหลือเพียงขาเดียวเท่านั้น สุดท้ายเหมือนตัวคนเดียว พรรคร่วมก็ไม่เอาด้วย

ศรีธนญชัยรอดช่อง

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี : ศรีธนญชัยรอดช่อง มาจากความเป็นกูรูด้านกฎหมายของรัฐบาล สามารถช่วยรัฐบาลรอดพ้นปากเหวได้ทุกครั้ง เปิดทางตันด้วยช่องว่างทางกฎหมายที่แม้แต่แว่นขยายก็ยังมองไม่เห็น

รัฐอิสระ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ : รัฐอิสระ เพราะเมื่อฝ่ายค้าน มีฝ่ายค้านอิสระ รัฐบาลนี้ก็มีฝ่ายรัฐบาลอิสระเช่นกัน ให้ความสำคัญและเดินหน้าเฉพาะนโยบายของพรรคตนเองเป็นหลัก ไม่สนใจภาพรวมของรัฐบาล ไม่สามารถควบคุม ส.ส. ของพรรคได้ สร้างความหวาดระแวงภายในรัฐบาลตลอดเวลา ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐ

สารหนู

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข : สารหนู คือ แม้มีชื่อเล่นว่า “หนู” แต่ก็ไม่หนูอย่างที่คิด พิษสงรอบตัว ด้วยจำนวน ส.ส. ในมือ มีผลต่อความเป็นไปของรัฐบาล จนสามารถต่อรองคุมกระทรวงใหญ่ไว้ในมือได้ อีกทั้งนโยบายแบนสามสารพิษ ก็โดดเด่นและถูกจับตามอง ถึงกับเป็นชนวนความขัดแย้งเกิดขึ้นในรัฐบาล ก่อนจะสยบรอยร้าวได้ในที่สุด

เทามนัส

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ : เทามนัส คือแม้คดีความต่างๆ จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่การถูกขุดคุ้ยล่าสุดทั้งเรื่องคดียาเสพติดในต่างประเทศ และ วุฒิการศึกษา ยังทำให้คนกังขา ไม่เชื่อมั่นในความโปร่งใส รวมถึงการทำหน้าที่มือประสานสิบทิศทางการเมือง ก็ยังถูกครหาเรื่องการซื้อตัว สส. พรรคเล็ก และ ดีลการเมืองกับฝ่ายค้านอีกด้วย

มาดามแบนเก้อ

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ : มาดามแบนเก้อ คือ ด้วยบุคลิกเฉิดฉาย เด็ดเดี่ยว และ โดดเด่น เดินหน้าแบนสามสารพิษ อย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม แม้ต้องชนกับเจ้ากระทรวงของตัวเองก็ไม่หวาดหวั่น เดินหน้าตามธงที่ถือไว้ แต่จนแล้วจนรอด การแบนสามสารก็ยังไม่สามารถปฎิบัติได้จริง

โอ๋ แซ่รื้อ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม : โอ๋ แซ่รื้อ คือ ตั้งแต่เข้ามากำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ผุดไอเดียบรรเจิดจนคนต่อต้าน เช่น ติดตั้ง GPS ในรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่พอยังเดินหน้ารื้อหลายโครงการที่เป็นปัญหา เช่น รื้อมาตรการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า รื้อคดีค่าโง่ทางด่วน รื้อหลักสูตรสอบใบขับชี่ รื้อแผนท่าเรือปากบารา-สงขลา2 รื้อแผนฟื้นฟู ขส.มก. แม้แต่ไม้กั้นรถไฟยังถูกรื้อ

สัปเหร่อ ออนท็อป

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : สัปเหร่อ ออนท็อป เพราะนับแต่เข้ารับตำแหน่ง ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันซ้ำไปซ้ำมา กับบรรดาสิงสาราสัตว์ ที่มีชื่อเสียง ทั้ง พะยูนมาเรียม แพนด้าช่วงช่วง เสือของกลาง ช้างป่าเขาใหญ่ เป็นความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็สามารถแสดงศักยภาพรับมือเหตุต่างๆ ได้ดี คล้ายทำหน้าที่สัปเหร่อเก็บกวาดทุกเรื่อง รวมไปถึงคดีความร้อนๆ ของคน และ พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สำหรับ วาทะแห่งปี ผู้สื่อข่าวทำเนียบยกให้กับ ประโยคเด็ดของนายกฯ ที่ว่า“อย่าเพิ่งเบื่อผมก็แล้วกัน ยังไงผมก็อยู่อีกนานพอสมควร” ที่ นายกรัฐมนตรีพูดเอาไว้เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างให้โอวาทเจ้าหน้าที่และนักกีฬาทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30