ประเด็นน่าสนใจ
- ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาใน 2 คดี
- คดีสกัดยาเสพติดก่อนลำเลียงเข้ากรุง
- คดีหนุ่มค้ายาแลกอาวุธสงคราม
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาใน 2 คดี ได้แก่ คดีสกัดกั้นยาเสพติดภาคตะวันออกก่อนลำเลียงสู่เมืองหลวง และคดีรวบหนุ่มค้ายาแลกอาวุธสงคราม ณ กองบังคับการสายตรวจ และปฏิบัติการพิเศษ 191 กองบัญชาการนครบาล แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
โดยในคดีสกัดยาเสพติดภาคตะวันออกก่อนลำเลียงสู่เมืองหลวง มีผู้ต้องหาจำนวนทั้งสิ้น 4 ราย โดยถูกแจ้งในข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
รวมทั้งมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ซึ่งรวมแล้วมียาบ้าไว้ในครอบครองเป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,612,000 เม็ด และคีตามีนอีกจำนวน 11 กิโลกรัม ซึ่งจากการจับกุมผู้ต้องหาในรายที่ 1 ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถขยายผลและสืบคดีต่อ จนสามารถจับผู้ต้องหาได้อีก 3 ราย รวมเป็น 4 ราย
คดีที่สอง 191 รวบหนุ่มค้ายาแลกอาวุธสงคราม โดยได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา นายเชาวลิต หรือ อ๊อฟ อายุ 33 ปี ซึ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหา คือ มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนโดยนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาแท่ง) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)
โดยผิดกฎหมาย ซึ่งรวมแล้วมีกัญชาแท่งในครอบครองกว่า 5 กิโลกรัม รวมทั้งอาวุธปืนยาว AK 47 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติอีกจำนวน 1 กระบอก
ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่า ตนได้อาวุธปืนยาวมาเนื่องจากนำกัญชาจำนวน 10 กิโลกรัม ไปแลกกับนายบัง มาวางไว้ตามบริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ แขวงเขตสะพานสูง กรุงเทพฯ และในส่วนกัญชาที่ถูกยึดเป็นของกลางนั้นเป็นส่วนที่ตนได้นำมาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นในละแวกมาประมาณนั้น 3 – 4 เดือนแล้ว