ประเด็นน่าสนใจ
- วันนี้ พล.อ.ประวิตร เป็นประธานในการหามาตรการป้องกันอุบัติเหตุปีใหม่
- โดยเน้นย้ำให้ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับคนเมาแล้วขับ
- แนะ ปชช. ร่วมกิจกรรมทางศาสนา เพื่อดึงตัวให้ห่างจากอบายมุข
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับมาตรการลดอุบัติเหตุ การจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ถนนอู่ทองนอก เขตดุสิต กรุงเทพฯ ว่า
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยประชาชน เน้นย้ำฝากให้ประชาชนร่วมมือ ข้าราชการทหาร ตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้รับความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ดื่มแล้วขับ เราไม่ต้องการให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
เพราะจากสถิติช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 2562 เกิดอุบัติเหตุ 369 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 44 ราย ผู้บาดเจ็บ 391 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 30.35 และขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 29.54
ดังนั้น จึงขอกำชับให้ทุกส่วนราชการเตรียมความพร้อมและให้ความสำคัญกับการกวดขันวินัยจราจรอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เน้นบังคับใช้กฎหมายเข้มกับสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ การขับรถเร็วและการเมาสุราขณะขับขี่
จัดด่านตรวจตามชุมชน ป้องกันเมาแล้วขับ
โดยขอให้จุดบริการประชาชน ด่านตรวจและด่านชุมชนตามเส้นทางหลักและรอง มีมาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับขี่ ยานพาหนะ กรณีตรวจพบผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด
นอกจากดำเนินคดีกับผู้ขับขี่แล้วให้ สอบสวนขยายผลมาตรการทางกฎหมายไปถึงสถานที่จำหน่ายสุราให้ผู้ขับขี่ด้วย เช่น การพักใช้ใบอนุญาตจำหน่ายสุรา หรือการสนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดต่อไป
สำหรับพื้นที่ที่จัดกิจกรรมปีใหม่ ขอให้มีมาตรการควบคุมการจำหน่ายสุราในบริเวณงานอย่างจริงจัง และให้มีการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์รอบพื้นที่จัดงาน โดยให้เข้มกับการสวมหมวกกันน็อคและการเมาแล้วขับ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนโดยรอบ
สั่งทหาร สนับสนุนการทำงานของตำรวจ และฝ่ายปกครอง
ขณะเดียวกัน ขอให้หน่วยทหารในพื้นที่ สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองในพื้นที่ และเน้นย้ำขอให้ทุกส่วนราชการทำงานร่วมกับจิตอาสาพระราชทานอย่างใกล้ชิดในทุกระดับ
โดยเฉพาะท้องถิ่น ทั้งการประชาสัมพันธ์สร้างการตระหนักรู้ การลดความเสี่ยงจากการขับรถเร็วและการเมาแล้วขับ การเสริมสร้างและรณรงค์รักษาวินัยจราจร การส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายจราจร การส่งกลับและรักษาพยาบาล การการอำนวยความสะดวกประชาชน รวมทั้งการบริการอาหารเครื่องดื่ม
พร้อมทั้งขอให้เชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมสาธารณะ กิจกรรมทางศาสนา เพื่อดึงตัวเองให้ห่างจากอบายมุข โดยเฉพาะความสำคัญของด่านชุมชนและด่านครอบครัว เพื่อให้สมาชิกชุมชนและครอบครัวได้มีส่วนร่วมเฝ้าระวังดูแลกันเองมากขึ้น
ทั้งนี้ขอให้หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ทุ่มเทเสียสละช่วงปีใหม่ ลงพื้นที่ร่วมขับเคลื่อนการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและเป็นแบบอย่างที่ดีกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง