ประเด็นน่าสนใจ
- แม่มณีเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก
- ยืนยันจะคืนเงินให้ผู้เสียหายทั้งหมด ชี้เกิดจากความโลภของแม่ข่าย
- ชี้แม่ข่ายความรับผิดชอบดูแลลูกข่ายเอง ไม่ใช่โยนความผิดให้
ความคืบหน้าหลังตำรวจบุกจับแม่มณี พร้อมแฟนหนุ่มได้ที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ล่าสุดแม่มณีเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ยืนยันจะคืนเงินให้ผู้เสียหาย เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะความโลภของแม่ข่ายที่อยากได้เปอร์เซ็น เมื่อเกิดเรื่องกลับยานความผิดให้คนเดียว
นางสาววันทนีย์ หรือ เดียร์ หรือ แม่มณี ทิพย์ประเวช และนายเมธี หรือบอส ชิณภา อายุ 20 ปี แฟนหนุ่มผู้ต้องหาในคดี “แชร์ออมเงิน-ออมทองแม่มณีลวงโลก” ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองอุดรธานี หลังจากถูกจับกุมได้ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระหว่างที่แม่มณี ถูกควบคุมตัวออกมาพิมพ์ลายนิ้วมือ เธอก็ให้สัมภาษณ์เปิดใจเป็นครั้งแรกว่า ตอนนี้ไม่เครียด ไม่คิดมาก ตามข่าวที่ออกไปว่าหนีไปต่างประเทศนั้นขอยืนยันตัวไม่ได้ไปไหน เดินทางไปจังหวัดชลบุรี เพื่อเซ็นใบมอบอำนาจกับคุณป้าเจ้าของบ้าน
เรื่องที่เกิดขึ้น ทุกคนมาเพราะความโลภ อยากจะได้เงินเปอร์เซ็นต์ ขอฝากไปถึงไปยังแม่ข่าย คุณเป็นแม่ข่ายคุณต้องดูแลลูกข่ายคุณ ไม่ใช่จะโยนความผิดให้เรา แม่ข่ายอาจจะเอาเงินที่ได้จากลูกข่าย ไปหมุนก็ได้ลองคิดดู เมื่อเดียร์ถูกอายัดบัญชี แม่ข่ายก็ให้ลูกข่ายมาแจ้งความ ทั้งที่คุณไปรับมา ส่วนเงินหากได้รับการประกันตัวจะคืนเงินให้ทุกคน นักข่าวก็ถามเรื่อง “มะนาว โซฮอต” จะว่าอย่างไร เดียร์ไม่ตอบ และแถมโวยสื่อว่า ทำให้เรื่องวุ่นวาย สื่อรู้ดีไปทุกเรื่อง เลิก เขียนข่าวมั่วมั่ว เดี๋ยวออกมาฟ้องรายตัว
ส่วนนายเมธี ตอบคำถามนักข่าวว่า อยากจะขอโทษผู้เสียหายหรือไม่ นายเมธี บอกเพียงว่า จะขอโทษทำไม ไม่ได้ทำอะไรผิด
ในส่วนทรัพย์สินแม่มณี ที่ถูกกอายัด มีอาคารพาณิชย์ รถยนต์ 3 คัน โฉนดที่ดิน รวมมูลค่า 22.1 ล้านบาท ส่วนทองปลอม แม่มณีรับว่าซื้อเหมามาเป็นกิโล จากจังหวัดขอนแก่น ส่วนตู้เซฟ 3 ตู้ แม่มณีอ้างว่าจำรหัสเปิดไม่ได้ ตำรวจยังพบว่า เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พบแม่มณีโอนเงินหลัก 10 ล้าน และวันที่ 25 ตุลาคม นายเมธี แฟนหนุ่ม มอบอำนาจให้ชายหญิงคู่หนึ่งไปถอนเงินจากธนาคาร 5 ครั้ง 23 ล้านบาท จึงอยู่ระหว่างตรวจสอบใครเป็นผู้รับโอนเงิน จะเข้าข่ายยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินหรือไม่
ในวันนี้ตำรวจจะนำตัวแม่มณี พร้อมแฟนหนุ่ม ฝากขังต่อศาล พร้อมคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงจะหลบหนี ทำลายหลักฐาน และมูลค่าความเสียหายสูงเฉพาะที่ร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ ความเสียหายอยู่ที่ 984 ล้านบาทแล้ว มีผู้เสียหาย 3501 คน และจะรวบรวมส่งสำนวนให้ดีเอสไอภายในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ หลังดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ