ประเด็นน่าสนใจ
- ถ้าจะให้พูดถึงแนวหนังที่เป็นที่นิยมอันดับต้นๆในวงการภาพยนตร์ไทย หนังที่เล่นกับเรื่องราวของความเชื่อ สิ่งลี้ลับ คุณไสย สิ่งเหนือธรรมชาติ และพิธีกรรมที่เล่นกับความเป็นความตายของคน จะเป็นหนังอีกหนึ่งประเภทที่ถูกสร้างและผลิตมาให้เราได้ชมกันอยู่เสมอๆ ซึ่งมีทั้งที่ทำเงินอย่างถล่มทลาย และบางเรื่องก็หายไปจากความทรงจำของผู้ชมอย่างรวดเร็ว
ภาพยนตร์ไทยในแนวที่เล่นกับเรื่องความเชื่อ สิ่งลี้ลับ เรื่องเหนือธรรมชาติ กลายเป็นอีกหนึ่งแนวทางของการสร้างภาพยนตร์ที่อยู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน หลายต่อเรื่องหลายเรื่อง สร้างกระแส กวาดรายได้ คว้ารางวัล บางเรื่องโดนคำวิจารณ์ รายได้ไม่เข้าเป้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะถูกทำให้กลายเป็นสิ่งที่ผู้สร้างจะเข็ดหลาบ เพราะสุดท้าย มันก็เป็นหนังอีกแนวทางที่ได้รับผลตอบรับจากผู้ชมเสมอๆ คละเคล้ากันไปตามแต่ช่วงเวลาของการออกฉาย
มาในวันนี้ เราจึงขอเป็นกระบอกเสียงที่จะพาคอหนังทุกท่าน ไปสอดส่องดูว่าหนังไทยเรื่องไหนบ้าง ที่ใช้เรื่องราวเหนือธรรมชาติ คาถามนต์ดำ ไสยศาสตร์ มาทำให้ผู้ชมได้ขนหัวลุกกับความหลอน และเรื่องราวที่เปิดประตูสู่อีกด้านของมนุษย์
ลองของ (2548)
ลองของ เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่โชว์ศักยภาพของการเป็นนักแสดงของมะหมี่ นภคปภา ได้อย่างสุดยอดอีกเรื่องหนึ่ง ในเรื่องนี้ เธอรับบทเป็นครูพนอ ที่มีเรื่องราวในอดีตที่มืดดำซ่อนอยู่และมันถูกเปิดเผยออกมาด้วยอดีตนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่เธอเคยสอน และแน่นอนว่าการเปิดเผยดังกล่าวทำให้หลายชีวิตต้องพบกับจุดจบที่น่าสะพรึงกลัว ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ อยู่ตรงที่การเล่นกับความทรงจำ บทบาทหน้าที่ความเป็นครูกับลูกศิษย์ ที่ผสมผสานกับเรื่องราวของความหลงใหล สิ่งเหนือธรรมชาติ และพิธีกรรมที่ทำให้คนๆหนึ่งนำมาใช้สำหรับการล้างแค้นอย่างสยดสยอง อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้มะหมี่ นภคปภา กลายเป็นนางเอกภาพยนตร์ที่แสดงฝีมือได้อย่างร้ายกาจ เต็มไปด้วยความลึกลับ การแสดงที่สอดคล้องกับบรรยากาศที่ชวนไม่น่าไว้วางใจ และเรื่องราวที่เข้มข้น ส่งผลให้หนังเรื่องนี้ กลายเป็นหนังที่หลายคนยังคงพูดถึงอยู่เสมอๆ เมื่อนึกถึงหนังในแนวนี้
สี่แพร่ง : ตอน ยันต์สั่งตาย (2551)
หลังจากแจ้งเกิดจากการกำกับหนังเรื่อง บอดี้ ศพ19 ในปี พ.ศ.2550 ปวีณ ภูริจิตปัญญา ก็กลับมาอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องสี่แพร่ง ตอน ยันต์สั่งตาย ที่แสดงโดยสายป่าน อภิญญาและบอล วิทวัส โดยภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากการ์ตูนสุดหลอนของ เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ เรื่องราวเกิดขึ้นและพบเห็นได้ตามข่าวตามสื่อต่างๆมากมายในประเทศนี้ เมื่อเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกับฝ่ายตรงข้ามที่ยังมีความหัวร้อนและไม่มีการยับยั้งชั่งใจ แต่มันจะไม่ได้จบลงแค่ตรงนั้นถ้าอีกฝ่ายไม่ได้มีเบื้องหลังเป็นลูกของหมอผีที่สามารถสร้างยันต์ที่ชื่อว่า “ยันต์สั่งตาย” ขึ้นมาเพื่อชำระแค้นกลุ่มวัยรุ่น ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ วิธีการต่างๆที่นำมาซึ่งความตายหลังจากที่ได้มองไปที่ยันต์ ซึ่งแต่ละวิธีต้องบอกเลยว่าสร้างความหวาดเสียวชวนขนหัวลุกด้วยกันทั้งสิ้น และแน่นอน เมื่อความตายมาพร้อมกับการชำระแค้น การพยายามหนีต้องแข่งกับเวลา ทำให้เรื่องราวในหนังตื่นเต้นเป็นทวีคูณจนทำเอาคนดูแทบจะลืมหายใจเลยทีเดียว
ผีสามบาท : ตอน น้ำมันพราย (2544)
น้ำมันพราย ภาพยนต์ 1 ใน 3 องค์จากภาพยนตร์เรื่องผีสามบาท ที่เล่นประเด็นไสยศาสตร์กับความใคร่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ถ้าจะให้พูดถึงคุณไสยที่คนไทยคุ้นเคย ชื่อของ น้ำมันพราย เป็นชื่อคุณไสยอันดับต้นๆที่หลายคนนึกถึง และเมื่อมันมาผนวกรวมเข้ากับเรื่องราวที่ชื่อว่า แพน ซึ่งดำเนินชีวิตด้วยตัวคนเดียวท่ามกลางบรรยากาศที่แสนอึดอัดและผู้คนมากหน้าหลายตาในเมืองหลวง ทำให้เธอต้องการเรียกร้องบางอย่างจากผู้ชายที่เข้ามาหาเธอ แน่นอนว่าการเรียกร้องดังกล่าวไม่ได้ใช้ด้วยวิธีการที่ซื่อตรง เพราะแพน ได้ใช้น้ำมันพรายเป็นตัวช่วยให้เธอได้สร้างแรงดึงดูดกับผู้ชายที่เข้ามาในชีวิต แต่การใช้น้ำมันพรายไม่ได้จบลงได้โดยง่าย เพราะมีบางสิ่งบางอย่างที่ตามมาอีกมากมายจนทำให้ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนแปลงไป
คนเล่นของ (2547)
เมื่อพูดถึงหนังเรื่อง คนเล่นของ หนังจากฝีมือผู้กำกับ ธนิตย์ จิตนุกูล อีกหนึ่งผู้กำกับที่มีผลงานดังๆในวงการภาพยนตร์ไทยมาอย่างยาวนาน หลายคนจะนึกถึงฉากหงส์ร่อน ที่กระแต ศุภักษร ในบทบุ๋ม เล่นจนกลายเป็นกระแสที่โด่งดังในตอนที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย แก่นเรื่องของหนังเรื่องคนเล่นของอยู่ตรงที่มันเล่นกับเรื่องราวที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน เมื่อหญิงสาวอย่าง บุ๋ม ไปมีความสัมพันธ์จนมีลูกกับผู้ชายที่มีพันธะ แน่นอนนอกจากการอยากได้ความรักจากอีกฝ่ายมาครอบครอง ความโลภที่ต้องการสมบัติของบุ๋ม ทำให้เธอใช้มนต์ดำ คุณไสย เพื่อทำลายครอบครัวของอีกฝ่าย และแน่นอนว่าตัวของเธอเองก็ได้พบกับความเปลี่ยนแปลงที่มาจากความโลภของเธอด้วยเช่นกัน สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ได้รับการพูดถึง นอกจากเรื่องราวที่พูดถึงความรักความใคร่ผสมกับพิธีกรรมที่เหนือธรรมชาติ คือ การเล่นกับบริบทของความเป็นครอบครัว ที่เป็นรสชาติที่คนไทยชอบเสพอยู่เสมอ
จอมขมังเวทย์ (2548)
ถ้าจะให้พูดถึงผู้กำกับที่มีแนวทางการทำงานในหนังแนวลี้ลับเหนือธรรมชาติ ผู้กำกับอย่าง ปิยะพันธ์ุ ชูเพ็ชร์ เป็นอีกชื่อที่หลายคนนึกถึง เพราะผลงานของเขาการันตีความสำเร็จหลายเรื่อง และส่วนใหญ่เป็นหนังที่เล่นกับเรื่องความเชื่อ เวทมนต์คาถาด้วยกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะเรื่อง จอมขมังเวทย์ ภาพยนตร์ที่นำไสยศาสตร์มาทำได้อย่างครบรส และสร้างกระแสการตอบรับจากผู้ชมได้อย่างถล่มทลาย เรื่องราวการต่อสู้ระหว่างตัวละครอย่างอิทธิ ที่รับบทโดยฉัตรชัย เปล่งพานิช กับอีกฝ่ายคือ สันติ ที่แสดงโดย กอล์ฟ อัครา ซึ่งต่างฝ่ายต่างไม่ได้ต่อสู้กันด้วยอาวุธ หากแต่เป็นการต่อสู้โดยการใช้เวทมนต์ ไสยศาสตร์ พิธีกรรมเหนือธรรมชาติ มาปะทะพลังกัน แน่นอนว่าด้วยเรื่องราวที่เข้มข้น ทำให้หนังเรื่องนี้โดนใจผู้ชมเป็นอย่างมาก เพราะผู้สร้างนำเสนอรายละเอียดของบรรดาเวทมนต์คาถา เครื่องรางของขลัง และพิธีกรรมผสมผสานไปกับความน่าตื่นเต้นและการต่อสู้ที่ลุ้นระทึก ถือว่าเป็นอีกหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง