กรมสุขภาพจิต ข่าวสดวันนี้ วันเด็กแห่งชาติ 2562 อาชีพในฝัน

เผยผลสำรวจอาชีพในฝันของเด็กไทย 2 อันดับแรก หมอ-ครู

กรมสุขภาพจิต เผยผลสำรวจอาชีพในฝันของเด็กไทยล่าสุด 2 อันดับแรก หมอ-ครู บ่งชี้ว่าเด็กรุ่นใหม่ มีความคิดเรื่องการช่วยเหลือสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า จากผลสำรวจอาชีพในฝันของเด็กไทย ครั้งที่ 10…

Home / NEWS / เผยผลสำรวจอาชีพในฝันของเด็กไทย 2 อันดับแรก หมอ-ครู

กรมสุขภาพจิต เผยผลสำรวจอาชีพในฝันของเด็กไทยล่าสุด 2 อันดับแรก หมอ-ครู บ่งชี้ว่าเด็กรุ่นใหม่ มีความคิดเรื่องการช่วยเหลือสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า จากผลสำรวจอาชีพในฝันของเด็กไทย ครั้งที่ 10 ปี 2562 โดยกลุ่มบริษัทอเด็คโก้ ได้ทำการสำรวจเด็กไทยที่มีอายุ 7-14 ปี จำนวน 2,684 คน พบว่า อันดับ 1 คือ หมอ ซึ่งเป็นอาชีพที่เด็กไทยใฝ่ฝันอยากทำมากที่สุด เนื่องจากเป็นอาชีพที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ได้บุญ และมีรายได้ดี

อันดับ 2 คือ ครู ด้วยเหตุผลอยากสอนเด็กไทยให้เป็นคนดีมีความรู้ อันดับ 3 คือ นักกีฬา โดยส่วนใหญ่อยากเป็นนักฟุตบอล เพราะรักในการเล่นฟุตบอล อันดับ 4 คือ ทหาร และอันดับ 5 ที่น่าสนใจ คือ อาชีพนักกีฬาอีสปอร์ตและนักแคสเกม เพราะเป็นอาชีพในฝันของเด็กไทยรุ่นใหม่ที่มาแรงติด 5 อันดับแรก

โดยปีนี้เป็นปีแรกผลการสำรวจดังกล่าวเป็นที่น่าชื่นชมว่า ด็กรุ่นใหม่มีความคิดต้องการมีอาชีพช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือประชาชน อย่างหมอ ครู ทหาร ที่ล้วนเป็นอาชีพฐานรากในการสร้างอนาคตของชาติ ลดความกังวลของหลายฝ่ายที่มองว่า หากในอนาคตเด็กรุ่นใหม่ไม่สนใจอาชีพรับราชการประเทศอาจพัฒนาไปข้างหน้า โดยขาดพื้นฐานที่แข็งแรงได้

อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ อาชีพในฝันของเด็กไทยที่มาแรงในอันดับที่ 5 ของปีนี้ คือ นักกีฬาอีสปอร์ตและนักแคสเกม ซึ่งเป็นการดีที่เด็กเล็งเห็นว่า สามารถสร้างรายได้จากสิ่งที่ชอบ และอาจนำไปสู่ชื่อเสียงในอนาคตได้ แต่ความจริงที่ต้องคำนึงถึงไปพร้อมกัน คือ อาชีพดังกล่าวมีเพียงคนส่วนน้อยมากที่จะประสบความสำเร็จ มีรายได้เลี้ยงชีพ

หากเด็กรุ่นใหม่มุ่งหวังแต่จะทำงานที่ตัวเองชอบเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีแผนสำรองของชีวิต หากเกิดเหตุที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพที่ตัวเองชอบดังกล่าว ก็อาจพลาดทางเลือกอาชีพอื่นๆ ที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ การตั้งเป้าหมายอาชีพในอนาคต จึงควรมองทั้งความมั่นคงและความชอบ เพราะหากเลือกอาชีพในอนาคตที่มั่นคงเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ชอบก็อาจทำได้ไม่นาน

ตรงกันข้ามหากชอบอย่างเดียวแต่ไม่มั่นคง ก็อาจทำให้ชีวิตในอนาคตเดือดร้อนได้ จึงควรมองปัจจัยทั้ง 2 ด้าน โดยอาจทำงานที่ชอบ และงานที่มั่นคงไปพร้อมๆกัน ก็ย่อมเป็นการดีกว่าการทุ่มเทเพื่อเป้าหมายอาชีพอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว