ประเด็นน่าสนใจ
- สาเหตุที่มีข่าวเลื่อนการซือเรือดำน้ำออกไป เพราะกองทัพเรือมีงบประมาณไม่เพียงพอ
- แต่รองนายกฯ ออกมาปฏิเสธแล้วไม่จริง
- ผบ.ทร. ยันซื้อเรือดำน้ำเป็นไปตามยุทธศาสตร์กองทัพ ไม่ใช่ซื้อตามอำเภอใจ
- เรือดำน้ำที่ซื้อจากจีน เกิดขึ้นในยุค คสช. คาดว่าจะได้เรือมาใช้ในปี 2566
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กองทัพเรืออาจต้องชะลอการจัดซื้อจัดจ้างเรือดำน้ำจากจีนล็อต 2 จำนวน 2 ลำ ตามวงเงินงบประมาณอีก 22,500 ล้านบาท ไว้ก่อน เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอนั้น
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้ยืนยันว่า แผนการจัดซื้อจัดหาเรือดำน้ำยังคงเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือที่จัดวางเอาไว้ ในปีงบประมาณ 2563 ไม่มีเลื่อนแต่อย่างใด
ขณะที่ พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ยืนยันทุกอย่างยังดำเนินการตามแผน แต่ก็ขึ้นอยู่ภายใต้งบประมาณที่กองทัพเรือได้รับ พร้อมย้ำว่าการจัดซื้อจัดหาขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยเฉพาะสถานการณ์รอบโลก ไม่ใช่อยากซื้อตามใจฉัน โดยทุกอย่างมียุทธศาสตร์ของกองทัพเรือรองรับ
สำหรับโครงการจัดหาเรือดำน้ำครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นในรัฐบาล คสช. โดยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการในแผนของกองทัพเรือที่จะจัดหาเรือดำน้ำ 3 ลำจากประเทศจีน โดยกองทัพเรือมีงบประมาณผูกพันที่จะจ่ายในโครงการนี้ตั้งแต่ปี 2560-2566 (งบฯ ผูกพัน 7 ปี)
ขณะที่เรือดำน้ำลำแรกจากประเทศจีน S26T มูลค่า 13,500 ล้านบาท กองทัพเรือได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2560 และได้มีการตัดแผ่นเหล็กเรือไปเมื่อ 4 กันยายน 2561 คาดว่าจะส่งมอบเรือดำน้ำลำแรกได้ในช่วงกลางปี 2566