ประเด็นน่าสนใจ
- จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย กรณี ‘ธนาธร’ ถือหุ้นสื่อ
- ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสิน “ธนาธร” สิ้นสุดความเป็น ส.ส.
จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นเรื่องให้ศาลวินิจฉัยคุณสมบัติต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ตามมาตรา 98 (3) ห้ามผู้ถือหุ้นสื่อหรือเป็นเจ้าของกิจการสื่อสารมวลชน ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. และเป็นผลให้ระหว่างการพิจารณาคดี นายธนาธรถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.นั้น
วันนี้เวลา 14.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยสถานภาพ ส.ส. ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะสิ้นสุดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) จากกรณี การถือหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ขณะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญเริ่มอ่านคำวินิจฉัยโดยระบุว่า การยื่นเรื่องของ กกต.นั้นชอบด้วยกฎหมาย ทำให้คำร้องของธนาธรตกไปที่กล่าวว่าการรวบลัดขั้นตอน ทำให้การรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วนรอบด้าน
การทำนิตยสารถือว่าเป็นการทำหนังสือสิ่งพิมพ์เหมือนกัน และไม่พบว่าไม่มีการจดแจ้งยกเลิกการพิมพ์ ดังนั้นจะอ้างว่าปิดกิจการและเลิกจ้าง/แจ้งหยุดกิจการชั่วคราวไปแล้วไม่ได้ เพราะวีลัคจะกลับมาทำอีกเมื่อไรก็ได้ เท่ากับว่าวีลัคทำสื่อมวลชนในวันที่ธนาธรสมัครเลือกตั้ง
ศาลเห็นว่าจากพยานหลักฐานที่ได้ไต่สวน พบว่าปกติวีลัคส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น(บอจ.5) เป็นปกติทุกปีและเมื่อมีโอนหุ้น 8 ม.ค. กลับส่ง 21 มี.ค. ถือว่าผิดปกติ ทั้งที่อยู่ในวิสัยที่ทำได้ ไม่ลำบากเกินไป โดยเฉพาะในช่วงการลงสมัครเลือกตั้งที่ต้องเร่งเคลียร์ตัวเองให้ชัดเจนก่อนสมัคร
ศาลวินิจฉัยว่าธนาธรกลับจากบุรีรัมย์มากรุงเทพในวันที่ 8 มกราคมจริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามีการโอนหุ้นกันจริง จึงต้องดูหลักฐานอื่นๆ ประกอบด้วย แต่เมื่อดูแล้วพบว่าธนาธรยังเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ในวันที่ลงสมัครเลือกตั้ง 6 กุมภาพันธ์ เป็นลักษณะต้องห้าม ทำให้สมาชิกภาพ ส.ส. ต้องสิ้นสุดลง