ประเด็นที่น่าสนใจ
- ครม. เห็นชอบคลังปรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ปี 64 ครั้งที่ 3 กู้เงินเพิ่ม 1.5 แสนล้านบาท
- จากเดิม 1,647,131.74 ล้านบาท เป็น 1,797,131.74 ล้านบาท
- มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม เเละเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19
- กระทรวงการคลังไม่ได้กู้ทั้งจำนวนแต่จะทยอยกู้เงินตามความจำเป็นของแผนการใช้จ่ายเงิน
- สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นปีงบประมาณ 2564 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 58.88
…
ครม. เห็นชอบคลังปรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ปี 64 ครั้งที่ 3 กู้เงินเพิ่ม 1.5 แสนล้านบาท
วันนี้ (27 ก.ค. 64)นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติ เรื่อง แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ปรับปรุงครั้งที่ 3
โดยมีวงเงินปรับเพิ่มขึ้นสุทธิ 150,000 ล้านบาท จากเดิม 1,647,131.74 ล้านบาท เป็น 1,797,131.74 ล้านบาท ให้สอดคล้องกับความต้องการในการก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาลเพื่อดำเนินแผนงานหรือโครงการกู้เงินภายใต้ พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พ.ร.ก.กู้เงินโควิด-19 เพิ่มเติม) เพื่อเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้สำหรับดำเนินมาตรการต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายในปีงบประมาณ 2564
วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ดังกล่าวเป็นการเปิดกรอบวงเงินเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการกู้เงินตาม พ.ร.ก. กู้เงินโควิด-19 เพิ่มเติม ซึ่งกระทรวงการคลังยังไม่ได้ดำเนินการกู้เงินแต่อย่างใด และจะกู้เงินเมื่อคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้พิจารณาและเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติแล้วเท่านั้น โดยกระทรวงการคลังไม่ได้กู้ทั้งจำนวนแต่จะทยอยกู้เงินตามความจำเป็นของแผนการใช้จ่ายเงิน
ทั้งนี้ อย่างไรก็ตามในขั้นตอนการดำเนินการ กระทรวงการคลังไม่ได้กู้ทั้งจำนวนแต่จะทยอยกู้เงินตามความจำเป็นของแผนการใช้จ่ายเงิน โดยเมื่อปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ครั้งที่ 3 สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นปีงบประมาณ 2564 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 58.88 ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังสำนักนโยบายและแผน
