ประเด็นน่าสนใจ
- เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เกิดเหตุแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางที่ สปป.ลาว
- กรมชลประทาน ยืนยันทุกเขื่อนในพื้นที่ภาคเหนือ ไม่ได้รับผลกระทบ
- เผยติดตั้งเครื่องวัดแผ่นดินไหว และตรวจสอบอาคารชลประทานในความดูแลอยู่เสมอ
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว วันนี้ (21 พ.ย. 62) เวลา 04.03 น. วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.9 ริกเตอร์ ที่ความลึก 5 กิโลเมตร และเวลา 06.50 น. วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.4 ริกเตอร์ ที่ความลึก 3 กิโลเมตร นั้น
กรมชลประทาน โดยฝ่ายปลอดภัยเขื่อน สำนักงานชลประทานที่ 1 ได้ตรวจสอบข้อมูลจากสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวของกรมชลประทาน ในเขตจังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าความเร่งสูงสุดที่ตรวจวัดได้มีค่าเท่ากับ 0.0089 g ซึ่งความเร่งสูงสุดที่ใช้ในการออกแบบเขื่อนเพื่อรองรับแผ่นดินไหวมีค่า 0.2 g
และหลังจากตรวจสอบเขื่อนที่อยู่ในความรับผิดชอบ ได้แก่ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่แหลงหลวง เขื่อนแม่ทะลบหลวง เขื่อนห้วยแม่ออน เขื่อนแม่จอกหลวง และเขื่อนห้วยมะนาว จังหวัดเชียงใหม่ , เขื่อนแม่สรวย และเขื่อนดอยงู จังหวัดเชียงราย และอ่างเก็บน้ำแม่ถาง อำเภอสอง จังหวัดแพร่ พบว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อเขื่อนขนาดกลาง และขนาดใหญ่ของกรมชลประทานแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการเกิดปรากฏการณ์แผ่นดินไหวในเขตภาคเหนือ ได้เพิ่มขึ้นบ่อยครั้งและถี่มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน กรมชลประทาน โดยฝ่ายปลอดภัยเขื่อน สำนักงานชลประทานที่ 1 ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวที่อาคารชลประทานจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำแม่ทะลบหลวง อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ และอ่างเก็บน้ำโป่งอ่อน อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ทั้ง 3 แห่งนี้ เครื่องมือยังอยู่ในสภาพใช้งานได้ และหลังจากการตรวจสอบแล้ว พบว่าตัวเขื่อนยังมีความมั่นคงแข็งแรงปลอดภัย ส่วนอีก 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ฮ่องสอน อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เครื่องมืออยู่ระหว่างเร่งซ่อมแซมปรับปรุง
เบื้องต้นได้เข้าดำเนินการตรวจสอบทางกายภาพแล้ว พบว่าทำนบดินยังคงมีความมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัยดี อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณเขื่อนต่างๆ กรมลประทาน มีแผนที่จะดำเนินการติดตั้งเครื่องมือวัดผลกระทบจากแผ่นดินไหวเพิ่มเติมที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา ซึ่งจะดำเนินการในปีงบประมาณ 2563 นี้
กรมชลประทาน ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของเขื่อนอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี พร้อมทั้งติดตามข้อมูลเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อน มีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยแข็งแรงของเขื่อนทุกแห่งของกรมชลประทาน