ที่ดิน ที่ดินพิพาท มูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย

กลุ่มชาวพุทธฯ ย้ำ ที่ดินพิพาท 3,800 ไร่ เป็นของมูลนิธิอภิธรรมฯ

ที่กองบังคับการปราบปราม​ (บก.ป.) ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์, ทนายพงศ์นรินทร์ อมรรัตนา พร้อมกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน เข้ายื่นหนังสือให้กับเจ้าหน้าที่​กองปราบปราม เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีที่ดินพิพาท 3,800 ไร่ ใน จ.จันทบุรี และมอบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม โดยนายจรูญ…

Home / NEWS / กลุ่มชาวพุทธฯ ย้ำ ที่ดินพิพาท 3,800 ไร่ เป็นของมูลนิธิอภิธรรมฯ

ประเด็นน่าสนใจ

  • ดร.จรูญ พร้อมกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน​ ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมให้กองปราบ
  • ย้ำว่าที่ดินพิพาท 3,800 ไร่ จ.จันทบุรี เป็นของมูลนิธิอภิธรรมฯ

ที่กองบังคับการปราบปราม​ (บก.ป.) ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์, ทนายพงศ์นรินทร์ อมรรัตนา พร้อมกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน เข้ายื่นหนังสือให้กับเจ้าหน้าที่​กองปราบปราม เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีที่ดินพิพาท 3,800 ไร่ ใน จ.จันทบุรี และมอบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม

โดยนายจรูญ กล่าวว่า​ เอกสารราชการ เกี่ยวกับการบริจาคที่ดินของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย ที่มีพระกิตติพุฒโฒ เป็นอดีตประธานมูลนิธิ ได้มอบให้กับโรงเรียนบ้านตาเรียว ซึ่งไม่มีชื่อนายบุญช่วย เจริญสถาพร เป็นเจ้าของ จึงถือเป็นการฉ้อโกงที่ดินผู้อื่นมาเป็นของตัวเอง

นอกจากนี้ ในคดีการฟ้องร้องระหว่างฝ่ายนายบุญช่วย ที่เป็นโจทก์ และ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ กับ น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท เป็นจำเลย ในข้อหาแจ้งความเท็จกรณีนายบุญช่วย ยักยอกทรัพย์

ที่ต่อมาศาลได้นัดพร้อมทั้งสองฝ่ายเพื่อไกล่เกลี่ยคดีดังกล่าวในปี 2550-2551 ปรากฏว่าฝ่ายนายบุญช่วย ได้นำลายนิ้วมือขวาของนายสมพล โกศลานันท์ เจ้าของที่ดินก่อนจะขายให้กับพระกิตติฯ ไปประทับ ทั้งที่นายสมพล ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2538 

ส่วนทนายพงศ์นรินทร์ กล่าวเพิ่มว่า หลักฐานที่ยืนยันว่าที่ดินผืนนี้เป็นของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุ คือหนังสือ นส.3 ระบุการบริจาคที่ดินกว่า 50 ไร่ จากทั้งหมด 3,800 ไร่ ให้กับโรงเรียนบ้านตาเรียว ในปี 2520 ก่อนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ

ซึ่งมีชื่อของ พล.ต.อ. ประเสริฐ รุจิรวงศ์ ร่วมบริจาค 3 ไร่ ส่วนที่เหลือเป็นของมูลนิธิจิตตภาวัน ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกับมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุ อีกกว่า 30 ไร่ จนถึงปี 2551 ปรากฎว่า

พบเอกสารการโอนที่ดินว่ามีชื่อของนายสมพล ขายที่ดินให้นายบุญช่วย ซึ่งนายสมพล ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ ปี 2538 แล้ว นอกจากนี้ยังมีโฉนดที่ดินอีก 86 แปลงที่เข้าลักษณะนี้ทั้งหมด จึงตั้งข้อสงสัยว่า ใครจะเป็นผู้ลงชื่อนิติกรรมการโอนได้ และมีใครรับมรดกแทนหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ยังมีที่ดินในพินัยกรรมของพระกิตติฯ ที่ อ.เทพา จ.สงขลา จำนวน 600 ไร่ ได้ถูกแบ่งขายไปแล้วบางส่วน ตามแนวชายทะเลความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม