ประเด็นน่าสนใจ
- “กรุงเทพโพลล์” สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ถอดบทเรียน แชร์ลูกโซ่ คนไทยได้รับบทเรียนอะไร”
- ร้อยละ 95.9 รู้จัก และทราบรูปแบบแชร์ลูกโซ่ ที่แฝงมากับการลงทุนต่างๆ
- ร้อยละ 40.7 มองว่ากรณีแชร์ลูกโซ่นั้น เกิดจากคนหวังผลตอบแทนที่สูง
“กรุงเทพโพลล์” ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ถอดบทเรียน แชร์ลูกโซ่ คนไทยได้รับบทเรียนอะไร” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,197 คน ระหว่างวันที่ 19-20 พ.ย. ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 95.9 รู้จัก และทราบรูปแบบแชร์ลูกโซ่ ที่แฝงมากับการลงทุน น้ำมัน ทองคำ สกุลเงินต่างประเทศ
ขณะร้อยละ 52.9 รู้จักแชร์ลูกโซ่ที่แฝงมากับธุรกิจขายตรง และร้อยละ 50.0 รู้จักแชร์ลูกโซ่ออนไลน์ โดย ร้อยละ 47.7 มองว่า ความโลภ คือปัจจัยที่ทำให้แชร์ลูกโซ่สามารถจูงใจคนให้หลงเชื่อ, ร้อยละ 28.6 ได้รับผลตอบแทนสูงมากกว่าปกติ สูงกว่าทำธุรกิจอื่นๆ และร้อยละ 10.3 คนอยากหารายได้เพิ่มที่รวดเร็ว เห็นผลเร็ว
ทั้งนี้ ประชาชน ร้อยละ 40.7 ระบุ จากกรณีแชร์ลูกโซ่สะท้อน หรือให้บทเรียนอะไรกับสังคมไทย คือคนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อเพียงเพราะอยากได้รับผลตอบแทนสูง, รองลงมาร้อยละ 21.0 สังคมขาดการให้ความรู้ เท่าทัน ต่อกระบวนการลงทุน และร้อยละ 17.1 รายได้ในปัจจุบันไม่เพียงพอ ต้องการอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ร้อยละ 5.1 ทำให้จำนวนคนเป็นหนี้มากขึ้นเพราะกู้เงินมาลงทุน ส่งผลให้เงินในระบบเศรษฐกิจของประเทศหายไป
ส่วนวิธีป้องกันตัวเองเพื่อให้ปลอดภัยไม่ตกเป็นเหยื่อในวงจรธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ร้อยละ 39.8 ให้ปฏิเสธทันทีเมื่อมีคนเข้ามาคุยและเชิญชวนร่วมทำธุรกิจประเภทนี้,ร้อยละ 33.5 ให้คิดไว้เสมอว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ และร้อยละ 14.9 ต้องหาข้อมูลให้รอบด้านและปรึกษาคนรอบข้าง ก่อนตัดสินใจ