SME ธุรกิจ ธุรกิจ SMEs สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เศรษฐกิจ

สมาคมผู้ค้าปลีก เสนอ 4 มาตรการให้รัฐบาล ช่วยเหลือSME เเละลูกจ้างที่กำลังตกงาน

1.มาตรการสาธารณสุข 2.มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ SME และประชาชน 3.มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4.มาตรการรองรับเศรษฐกิจ

Home / NEWS / สมาคมผู้ค้าปลีก เสนอ 4 มาตรการให้รัฐบาล ช่วยเหลือSME เเละลูกจ้างที่กำลังตกงาน

ประเด็นที่น่าสนใจ

  • สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เสนอ 4 มาตรการ ช่วยเหลือSME กว่า 2 แสนรายที่กำลังจะปิดตัว คนตกงานอีก 1-1.5 ล้านคน
  • 1.มาตรการสาธารณสุข 2.มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ SME และประชาชน 3.มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4.มาตรการรองรับเศรษฐกิจใหม่ (New Economy)
  • สมาคมฯ พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับรัฐบาลในการผลักดันมาตรการต่างๆ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยต่อไป

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เสนอ 4 มาตรการ ช่วยเหลือSME กว่า 2 แสนรายที่กำลังจะปิดตัว คนตกงานอีก 1-1.5 ล้านคน

วันนี้ (23 ก.ค. 64) นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังอยู่ในภาวะวิกฤติ ทำให้รัฐบาลต้องยกระดับมาตรการป้องกันในพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้ทำหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่องขอเสนอมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อให้ความช่วยเหลือกับ SME ในภาคค้าปลีกและบริการอย่างเร่งด่วน

โดยขณะนี้ มี SME ในระบบกว่า 200,000 ราย ที่กำลังจะต้องปิดตัวลง และมีลูกจ้าง 1,000,000-1,500,000 ราย ที่จะต้องขาดรายได้ และไม่มีงานทำทั้งยังส่งผลกระทบกับสถาบันการเงินอย่างหนัก เพราะจะก่อให้เกิดหนี้เสียหลายแสนล้านบาท โดยสมาคมฯ ขอนำเสนอ 4 มาตรการ ดังนี้

1.มาตรการสาธารณสุข

  • เร่งจัดหาและกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง โดยใช้พื้นที่จุดฉีดวัคซีนที่ภาคค้าปลีกและบริการได้เตรียมไว้ทั้งหมด 93 จุด แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 25 จุดและในต่างจังหวัดอีก 68 จุดทั่วประเทศให้เป็นประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมเพิ่มบริการตรวจ Rapid Antigen Test ให้กับประชาชน
  • จัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรในภาคค้าปลีกและบริการ โดยเฉพาะศูนย์กระจายสินค้าของกลุ่มการค้าปลีกและบริการ เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนสินค้า

2.มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ SME และประชาชน

  • เร่งสถาบันการเงินอนุมัติเงินกู้ Soft Loan ให้ SME เร็วขึ้น เพราะในช่วง 30 วันที่ผ่านมามี SME ที่ได้รับอนุมัติเงินกู้เพียง 10% ของจำนวนที่ยื่นขอสินเชื่อไปแล้วกว่า 3 หมื่นราย
  • สำหรับ SME ที่เป็นลูกหนี้กับสถาบันการเงินในปัจจุบัน ขอให้พักชำระหนี้ และหยุดคิดดอกเบี้ยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
  • ช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดค่าน้ำ ค่าไฟ เพิ่มเป็น 50% เป็นระยะเวลา 6 เดือน
  • ในกรณีที่ผู้ประกอบการมีการจ้างงานเพิ่ม ขอผ่อนผันให้เป็นการจ้างงานแบบรายชั่วโมงเป็นการชั่วคราว เพื่อแบ่งเบาภาระให้ผู้ประกอบการ และลดอัตราการว่างงาน
  • เพื่อเป็นการเพิ่มให้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น ขอให้ปรับเพิ่มรายได้พึงประเมินบุคคลธรรมดาขั้นต่ำที่จะเสียภาษีจาก 150,001 บาท เป็น 250,001 บาท ในปี 2564-2565
  • ผ่อนผันให้ร้านอาหารในศูนย์การค้าสามารถให้บริการ Delivery ได้ เพื่อช่วยเหลือ SME ให้สามารถพยุงธุรกิจได้ และลูกจ้างยังมีงานทำต่อไป

3.มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

  • นำโครงการ ช้อปดีมีคืน กลับมาอีกครั้ง โดยเพิ่มวงเงินเป็น 100,000 บาท เพื่อกระตุ้นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง
  • ขอให้ภาคเอกชนไทยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาลและ BOI เช่นเดียวกับการที่ นักลงทุนต่างชาติได้รับ เนื่องจากภาคเอกชนที่มีธุรกิจขนาดใหญ่ยังมีความแข็งแรง สามารถลงทุนเพิ่ม แต่อาจขาดความมั่นใจและแรงกระตุ้น พร้อมยังช่วยทำให้เกิดการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง

4.มาตรการรองรับเศรษฐกิจใหม่ (New Economy)

  • กำหนดนโยบายและกฎหมายที่ชัดเจนเพื่อควบคุมบางธุรกิจ ห้ามนักลงทุนต่างชาติทำโดยเด็ดขาด และบางธุรกิจสามารถทำได้ แต่มีเงื่อนไข เพื่อปกป้องอาชีพและธุรกิจของคนไทย โดยไม่ทำลายอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยในที่สุด
  • ส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม จัดเก็บภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ตั้งแต่บาทแรก และห้ามขายต่ำกว่าราคาต้นทุน
  • เร่งผลักดันการทำ Digitalization ของหน่วยงานภาครัฐสำหรับใบอนุญาตต่างๆ ให้เป็นแบบ E-Form, E-License, E-TAX และ E-Invoice และลดขั้นตอนการออกใบอนุญาตเหลือเพียง 1 ใบ (Super License) จากเดิมที่ผู้ประกอบการค้าปลีกหรือค้าส่งต้องขอใบอนุญาตต่างๆ กว่า 43 ใบ
  • ปรับรูปแบบการบริการของหน่วยงานภาครัฐที่ให้บริการแก่ประชาชน เป็นแบบ Cashless Payment (การทำธุรกรรมทางการเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์) เพื่อช่วยลดกระดาษ ลดเอกสาร ลดขั้นตอน ลดเวลา และสามารถตรวจสอบเอกสารย้อนหลังได้จากระบบ

นายญนน์ กล่าวเสริมอีกว่า “ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสงครามเชื้อโรคที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เราอยู่ในช่วงวิกฤติซ้อนวิกฤติ ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อก้าวข้ามความท้าทายนี้ไปให้ได้ โดยสมาคมฯ พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับรัฐบาลในการผลักดันมาตรการต่างๆ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยและขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้อีกครั้ง”