จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น เมื่อตัวเลขการติดเชื้อรายวันมากถึงหมื่นกว่าราย ล่าสุดของการประกาศยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ขั้นสูงสุด โดยกรุงเทพมหานคร สั่งปิดกิจการต่างๆ รวมทั้ง วัดวาอารามซึ่งต้องปิดและงดทำพิธีต่างๆทางศาสนา เป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ส่งผลให้เครื่องประกอบพิธีไม่มีการใช้ เช่น ธูปเทียนแพหรือธูปแพเทียนแพ จนกระทบต่อผู้ผลิตและผู้ค้าที่รับจัดทำ ในโอกาสสำคัญๆ โดยวันที่ 25 กรกฎาคม นี้ จะตรงกับวันเข้าพรรษาของปี 2564
โดยวันนี้ (23 ก.ค. 64) ทีมข่าวลงพื้นที่ ร้านทำเทียนขี้ผึ้งแท้ปั้นมือ และ เทียนเหลืองของ คุณ พูลจิตร เกษสร เจ้าของร้านอายุ 57 ปี ผู้สืบทอดการทำเทียนจากร้านดังในอดีตเปิดร้านทำเทียนปั้นกว่า 30 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 ซึ่งตั้งอยู่ ถนน จักรวรรดิ แขวง จักรวรรดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
คุณพูลจิตร บอกกับทีมข่าว ขณะกำลังปั้นเทียนน้ำหนัก 3 บาท ว่าช่วงสถานการณ์ปกติการทำเทียนปั้น และเทียนเหลืองของเรา ก็ไม่ได้ขายดีเพราะเรารับทำตามยอดสั่งของลูกค้าที่รู้จักอยู่แล้ว แต่พอเราได้ออกทีวีไปก็พอมีลูกค้าใหม่สั่งมาบ้าง หากนั่งปั้นเทียนทั้งวัน พักแค่ช่วงกินข้าว ก็ปั้นได้ประมาณ 200 เล่ม
ส่วนเรื่องยอดการขาย ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ยอดการสั่งเทียนพรรษาและเทียนต่างๆ หายไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่สามารถจัดงานประเพณีถวายเทียนพรรษาได้ ลูกค้าประจำที่เคยสั่งก็ไม่ได้สั่ง เพราะทางวัดงดทำศาสนพิธีต่างๆ แต่ตอนนี้รายได้เอาแค่พอเลี้ยงครอบครัวให้ได้ก่อน คุณพูลจิตร กล่าว
อย่างไรก็ตามร้านขายเทียนพรรษา และเทียงต่างๆ บริเวณถนนจักรวรรดิ บอกกับทีมข่าวว่า ยอดการขาย ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ตกลงไปเยอะมาก เปิดร้านมาบ้างวันขายไม่ได้เลยก็มี แต่ก็ต้องเปิดร้าน ถ้าเป็นก่อนช่วงโควิดระบาด ใกล้วันเข้าพรรษา แบบนี้ จะมีลูกค้ามาซื้อเยอะมาก จนไม่มีเวลาได้ยืนคุยเลย แต่ปีนี้แย่จริงๆ
…
ภาพ – วิชาญ โพธิ