ข่าวสดวันนี้ ชรบ.ยะลา ยิงถล่มป้อม ชรบ.

หนึ่งในครอบครัวผู้สูญเสีย เหตุยิงป้อม ชรบ.ลำพะยา เผย ยังทำใจไม่ได้ 

           นางฐิติมา สังข์ทอง หนึ่งในครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คนร้ายยิงป้อม ชรบ. ลำพะยา เมื่อ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ต้องสูญเสียสามี นายวิรัตน์ เพชรปล้อง เผย ถึงแม้เวลาจะล่วงมากว่า 20 วัน แต่ตนเองก็ยังคงทำใจไม่ได้ ถ้าถามความรู้สึกตอนนี้ก็ยังไม่เต็ม 100 แต่ยังพอมีรอยยิ้มอยู่บ้าง ในความโชคร้ายยังมีความภาคภูมิใจที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานเพลิงศพ เป็นเกียรติอันสูงสุดแก่ครอบครัว ตอนนี้ก็ต้องพยายามปรับตัวเองให้ยอมรับกับสภาพความสูญเสียที่เกิดขึ้น ครอบครัวอื่นอาจจะเสียพ่อ เสียแม่ ส่วนครอบครัวจนเองมีกันสองคนไม่มีบุตร พอไม่มีสามีก็หมดทุกอย่าง เราต้องทำคนเดียว      บางครั้งที่เราออกไปข้างนอกแล้วไป เจอผลกระทบหรือว่าไปเจอคนพูดมา ทำให้ความรู้สึกของเรายิ่งแย่ลงไปอีก บางคนก็พูดว่าไม่เป็นไรหรอกอยู่ได้แล้วได้เงินเป็นล้าน ๆ คำว่า เงินเป็นล้านตอนนี้ ยังไม่มีเลย คำว่าเยียวยาเบื้องต้นจากภาครัฐ ยังไม่มีเงินล้านในมือเลย สำหรับครอบครัวตนเอง สูญเสียสามี ก็เหมือนสูญเสีย 2 ครอบครัว คือ ครอบครัวแม่สามีที่ได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งสามีจะดูแลแม่อยู่ด้วย และครอบครัวตนเอง ซึ่งมีกัน 2 คน การที่จะทำไร่ ทำสวน การที่เราจะหาเลี้ยงชีพแบบนี้ ก็ลำบาก        ถ้าถามว่าเงินเยียวยายังไม่รู้ว่าเยียวยาแบบไหน ที่รู้เบื้องต้นนั้นเงินห้าแสนบาทแบ่ง 2 ครอบครัว แม่ 250,000 บาท แลตนเอง 250,000 บาท ส่วนอื่น ๆ ก็จะมีเงินช่วยเหลือจากภาคเอกชน จากนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้มา ก็ไม่เข้าใจว่าอันไหนคือของหน่วยงานไหน เบ็ดเสร็จแล้ว ได้รับเงินหกแสนกว่าบาท ถ้าถามเงินหกแสนกว่าบาท กับอายุเกือบ 50 ปี แล้วและตนเองไม่ใช่คนที่นี่ จะใช้ได้สักกี่ปี ถ้าเราไม่มีแรงทำขึ้นมาวันไหน แต่ยังดีที่ยังมีพื้นดินทำกินอยู่ แต้ต้องทำทุกวันหยุดไม่ได้ และก็ต้องทำคนเดียว ก็ขอให้หน่วยงานของรัฐ ลองพิจารณาเป็นราย ๆ ไป หรือว่าจะพิจารณาทั้งหมดอะไรตรงนี้ อย่างไรก็ตามที่ดินตรงนี้ มีอยู่ก็ประมาณ 5 ไร่กว่า เป็นพื้นที่ของครอบครัวสามี ที่ผ่านมาก็ช่วยกันทำเกษตรผสมผสานกับสามี 2 คน มีทั้งไผ่ สละ มะพร้าว และอื่น ๆ หลัก ๆ รายได้ก็มาจากการปลูกมะพร้าว ประมาณ 300 ต้น เก็บผลผลิตขายและแปรรูป ทั้งเป็นน้ำมะพร้าวพร้อมดื่ม มะพร้าวขูด ไว้ทำแกง ขนมบ้าบิ่น ทำได้หลายอย่าง อาทิตย์หนึ่ง ถ้าไม่มีผลผลิตอย่างอื่น มีแต่มะพร้าว ที่จะนำไปขายที่หลังสำนักงานเกษตรยะลา ก็จะมีรายได้พันกว่าบาท ตอนนี้ยังไหว อยู่ได้ ที่มา สทท.ยะลา

Home / NEWS / หนึ่งในครอบครัวผู้สูญเสีย เหตุยิงป้อม ชรบ.ลำพะยา เผย ยังทำใจไม่ได้ 

ประเด็นน่าสนใจ

  • หนึ่งในครอบครัวผู้สูญเสีย เหตุยิงป้อม ชรบ.ลำพะยา เผย ยังทำใจไม่ได้ 
  • เจ้าตัวยืนยัน พร้อมสู้ต่อ

          

นางฐิติมา สังข์ทอง หนึ่งในครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คนร้ายยิงป้อม ชรบลำพะยา เมื่อ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ต้องสูญเสียสามี นายวิรัตน์ เพชรปล้อง เผย ถึงแม้เวลาจะล่วงมากว่า 20 วัน แต่ตนเองก็ยังคงทำใจไม่ได้ ถ้าถามความรู้สึกตอนนี้ก็ยังไม่เต็ม 100 แต่ยังพอมีรอยยิ้มอยู่บ้าง ในความโชคร้ายยังมีความภาคภูมิใจที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานเพลิงศพ เป็นเกียรติอันสูงสุดแก่ครอบครัว ตอนนี้ก็ต้องพยายามปรับตัวเองให้ยอมรับกับสภาพความสูญเสียที่เกิดขึ้น ครอบครัวอื่นอาจจะเสียพ่อ เสียแม่ ส่วนครอบครัวจนเองมีกันสองคนไม่มีบุตร พอไม่มีสามีก็หมดทุกอย่าง เราต้องทำคนเดียว     

บางครั้งที่เราออกไปข้างนอกแล้วไป เจอผลกระทบหรือว่าไปเจอคนพูดมา ทำให้ความรู้สึกของเรายิ่งแย่ลงไปอีก บางคนก็พูดว่าไม่เป็นไรหรอกอยู่ได้แล้วได้เงินเป็นล้าน  คำว่า เงินเป็นล้านตอนนี้ ยังไม่มีเลย คำว่าเยียวยาเบื้องต้นจากภาครัฐ ยังไม่มีเงินล้านในมือเลย สำหรับครอบครัวตนเอง สูญเสียสามี ก็เหมือนสูญเสีย 2 ครอบครัว คือ ครอบครัวแม่สามีที่ได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งสามีจะดูแลแม่อยู่ด้วย และครอบครัวตนเอง ซึ่งมีกัน 2 คน การที่จะทำไร่ ทำสวน การที่เราจะหาเลี้ยงชีพแบบนี้ ก็ลำบาก       

ถ้าถามว่าเงินเยียวยายังไม่รู้ว่าเยียวยาแบบไหน ที่รู้เบื้องต้นนั้นเงินห้าแสนบาทแบ่ง 2 ครอบครัว แม่ 250,000 บาท แลตนเอง 250,000 บาท ส่วนอื่น  ก็จะมีเงินช่วยเหลือจากภาคเอกชน จากนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้มา ก็ไม่เข้าใจว่าอันไหนคือของหน่วยงานไหน เบ็ดเสร็จแล้ว ได้รับเงินหกแสนกว่าบาท ถ้าถามเงินหกแสนกว่าบาท กับอายุเกือบ 50 ปี แล้วและตนเองไม่ใช่คนที่นี่ จะใช้ได้สักกี่ปี ถ้าเราไม่มีแรงทำขึ้นมาวันไหน แต่ยังดีที่ยังมีพื้นดินทำกินอยู่ แต้ต้องทำทุกวันหยุดไม่ได้ และก็ต้องทำคนเดียว ก็ขอให้หน่วยงานของรัฐ ลองพิจารณาเป็นราย  ไป หรือว่าจะพิจารณาทั้งหมดอะไรตรงนี้

อย่างไรก็ตามที่ดินตรงนี้ มีอยู่ก็ประมาณ 5 ไร่กว่า เป็นพื้นที่ของครอบครัวสามี ที่ผ่านมาก็ช่วยกันทำเกษตรผสมผสานกับสามี 2 คน มีทั้งไผ่ สละ มะพร้าว และอื่น  หลัก  รายได้ก็มาจากการปลูกมะพร้าว ประมาณ 300 ต้น เก็บผลผลิตขายและแปรรูป ทั้งเป็นน้ำมะพร้าวพร้อมดื่ม มะพร้าวขูด ไว้ทำแกง ขนมบ้าบิ่น ทำได้หลายอย่าง อาทิตย์หนึ่ง ถ้าไม่มีผลผลิตอย่างอื่น มีแต่มะพร้าว ที่จะนำไปขายที่หลังสำนักงานเกษตรยะลา ก็จะมีรายได้พันกว่าบาท ตอนนี้ยังไหว อยู่ได้

ที่มา สทท.ยะลา