ประเด็นน่าสนใจ
- พบโรงเรียนแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนภูเขา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
- ซึ่งแม้จะมีนักเรียนเพียงคนเดียว แต่ก็ยังมีการเรียนการสอนตามปกติ
- โดยครูผู้สอน เชื่อว่าการเสริมสร้างการศึกษาให้เด็กนักเรียน จะช่วยนำพาครอบครัวของเด็กหลุดพ้นจากความยากจนได้
วานนี้ (24 พ.ย.62) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า พบโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาในหมู่บ้านหม่าเถ้าจื่อ เมืองอู๋จง เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และพบ หม่าเฟิงฉาย เด็กชายวัย 8 ขวบ เป็นเด็กนักเรียนเพียงคนเดียวในโรงเรียนดังกล่าว โดยมี หม่าเยี่ยนกั๋ว อายุ 62 ปี คุณครู เฝ้ารอนักเรียนเพื่อร่วมเคารพธงชาติพร้อมกันในช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน
โดย หม่าเยี่ยนกั๋ว คุณครูโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า โรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งมากว่า 50 ปีแล้ว ในอดีตรองรับครูและนักเรียนได้กว่า 180 คน แต่ ณ ปัจจุบัน หลายครอบครัวพ่อแม่ของเด็กๆ ต้องเข้าไปทำงานในเมือง ทำให้นักเรียนมีจำนวนลดลงต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันเหลือนักเรียนเพียงคนเดียวเท่านั้น
ซึ่งพ่อแม่ของ เด็กชายหม่าเฟิงฉาย ยังคงอาศัยอยู่ในบนเขตภูเขา เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ โดยครอบครัวของเขามีรายได้จากการทำนา เลี้ยงวัวควายและแกะ นอกจากนี้ยังได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลอีกจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้คุณครูหม่าเยี่ยนกั๋ว เปิดเผยว่า สาเหตุที่ยังคงสอนอยู่ที่นี่ แม้เกษียณอายุไปแล้ว 2 ปี เพราะว่าอยากให้เด็กชายหมาเฟิงฉาย หรือเด็กๆแบบเขา มีวิชาความรู้ติดตัวไป ซึ่งมองว่าการที่เด็กได้รับการศึกษาที่ดีจะช่วยพาครอบครัวหลุดพ้นจากความยากจนได้
ทางด้าน สือเอี้ยนอวี้ รอง ผอ. สำนักการศึกษาอำเภอถงซิน ที่ดูแลหมู่บ้านหม่าเถ้าจื่อ ระบุว่า โรงเรียนแห่งนี้ยังคงเปิดการเรียนการสอนปกติ ตราบเท่าที่มันยังจำเป็นอยู่ ทั้งนี้รัฐบาลจีนมุ่งมั่นในการจัดการศึกษาภาคบังคับแก่นักเรียนทุกคน จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งจากข้อมูลในปี 2018 พบว่าในจีนมีโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่ชนบทกว่า 101,400 แห่ง
อย่างไรก็ตามแม้โรงเรียนลักษณะเช่นนี้จะมีนักเรียนเพียงไม่กี่คน แต่ก็ยังได้รับการลงทุนทั้งนโยบายและเงินทุน เพื่อส่งเสริมการบริหารโรงเรียน และมีการยกระดับอุปกรณ์การสอน ทั้งเรื่องอินเตอร์เน็ต รวมทั้งมีการปรับเงินเดือนของครูผู้สอน
แม้บางรายวิชาที่ครูหม่าเยี่ยนกั๋ว ไม่สามารถสอนให้ได้นั้น อาทิ วิชาดนตรี หรือ วิชาศิลปะ ก็สามารถเรียนได้ผ่านทางเทปบันทึกสื่อการเรียนการสอนผ่านระบบการศึกษาทางไกลได้เช่นกัน
ที่มาจาก สำนักข่าวซินหัว