ประเด็นน่าสนใจ
- โดยมีหลักฐานเป็นแผนที่ท้ายกฎกระทรวงมีมาตราส่วน 1 ต่อ 400,000 ยืนยัน
- ก่อนบอกทำฟาร์มไก่มา 10 ปี แต่ไม่เคยมี จนท.มาแจ้งว่ากระทำผิด
- ขอ จนท. ตรวจสอบด้วยความรอบคอบหวั่นกระทบประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง
- รมช.เกษตรฯ ชี้สั่งรังวัดใหม่ ไม่เอื้อประโยชน์ หากพบว่าผิดต้องถูกดำเนินคดี
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมป่าไม้ และเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ลงวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ขอให้ตรวจสอบเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตปฏิรูปที่ดิน หลังการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รัฐพบว่าที่ดินเขาสนฟาร์มของตนเองบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
โดยขอชี้แจงว่าได้ครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าวโดยสุจริตและเปิดเผยเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ที่มีลักษณะการทำประโยชน์เป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ และไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการใดตรวจสอบหรือแจ้งว่ามีการกระทำผิด
ชี้ทำฟาร์มมา 10 ปี แต่ไม่เคยมี จนท. มาแจ้งว่าผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบตามที่ปรากฏเป็นข่าวบริเวณที่อาจอยู่นอกป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งหลักฐานที่ดำเนินการเป็นแผนที่ท้ายกฎกระทรวงมีมาตราส่วน 1 ต่อ 400,000 และพื้นที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที่ดินมีมาตราส่วน 1 ต่อ 100,000
จึงขอให้กรมป่าไม้ และสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตร กรรม (สปก.) ตรวจสอบแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตปฏิรูปที่ดินโดยละเอียดรอบคอบก่อนการดำเนินคดีใด ๆ
เนื่องจากบริเวณดังกล่าวนอกจากเขาสวนฟาร์มของตนเองแล้ว ยังมีราษฎรใน ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี มีการครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าว ด้วยอาจจะได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำโดยยังไม่มีการตรวจสอบเขตที่ดินที่ชัดเจน
รมว. ทส. คาด 1-2 วัน ตรวจสอบแล้วเสร็จ
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบอย่างรัดกุม ก่อนที่จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย คาดว่าใช้เวลา 1-2 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ
เบื้องต้นใช้กฎหมาย 2 ฉบับคือ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 นอกจากนี้ยังยืนยันว่า ได้สั่งการให้กรมป่าไม้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา
ขณะที่ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการตรวจสอบที่ตั้งฟาร์มไก่ของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.จังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ว่า
รมช. เกษตรฯ สั่งรังวัดใหม่ ไม่เอื้อประโยชน์
มอบหมายให้เลขา สปก.ดำเนินการ ซึ่งนางสาวปารีณา ได้ยื่นหนังสือขอให้เข้ารังวัดที่ดินใหม่ ซึ่งกรมป่าไม้และ สปก.ก็ต้องหารือกันเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะเป็นคณะทำงานที่ตั้งขึ้นมาแบบเฉพาะกิจ
เมื่อถามว่า เหตุใดที่ดินที่ตรวจสอบพบ ไม่ตรงกับบัญชีทรัพย์สินหนี้สินที่นางสาวปารีณายื่นปปช. ว่าครอบครองพื้นที่ ภบท. 5 จำนวน 1,700 ไร่ แต่เจ้าหน้าที่กลับตรวจสอบว่าถือครองเพียง 600 ไร่ ว่า ส่วนตัวเข้าใจว่านางสาวปารีณาคิดเองว่าครอบครองที่ดินอยู่ 1,700 ไร่ แต่ในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบเพียง 600 กว่าไร่
พร้อมยอมรับว่าการลงพื้นที่ตรวจสอบล่าสุดตรวจแบบไม่ละเอียด จึงได้สั่งการให้ไปตรวจสอบใหม่ เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องของการฟ้องร้องดำเนินคดีกลับ จึงต้องเข้าไปวัดใหม่อีกครั้ง
ประกอบกับในแต่ละกระทรวงใช้แผนที่คนละฉบับในการตรวจสอบที่ดินจึงทำให้เกิดปัญหา ดังนั้นการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดคือเดินหน้าเรื่องวันแม็พให้สำเร็จ จึงจำเป็นจะต้องมีการวัดใหม่ซึ่งรวมไปถึง 46 ไร่ ที่อยู่ในเขตป่าสงวนด้วย
ยันหากพบว่าผิดต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ร้อยเอกธรรมนัส ชี้แจงเพิ่มเติมว่ากรณีของนางสาวปารีณานั้น พ่อของนางสาวปรีณา ครอบครองที่ดินดังกล่าวมาก่อนที่จะถูกประกาศเป็นพื้นที่ปฏิรูปเพื่อการเกษตร จึงจะเอาผิดทางอาญาไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นปารีณาหรือใครก็ตาม เมื่อถามย้ำว่า แต่คุณปารีณา ก็ครอบครองมาจนถึงปัจจุบัน ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ก็ต้องเจรจาผู้ครอบครองทุกราย เพื่อนำที่ดินดังกล่าวมาจัดสรรใหม่
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่จะอ้างไม่ได้ว่านางสาวปารีณาไม่ไปนำวัด เพราะโดยหลักแล้วเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปรังวัด และต้องดำเนินการก่อนที่จะเรียกนางสาวปารีณา มาชี้แจง
ตอนนี้ติดปัญหาเรื่องแผนที่ว่า จะยึดของหน่วยงานใด พร้อมยืนยันว่า แม้นางสาวปารีณาจะอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ แต่จะใช้กฎหมายเดียวกัน ไม่ใช่เพียงแค่นักการเมือง แต่รวมถึงประชาชนทุกคน