ประเด็นน่าสนใจ
- ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ไม่พอใจเนื้อหา หนัง THE CAVE นางนอน โจมตีระบบราชการไทย
- ทอม วอลเลอร์ ผู้กำกับจึงออกมาโต้ ดูแค่ 3 นาที แต่มาตัดสินทั้งเรื่อง
- เพจ Drama-addict จึงอาสารีวิวเนื้อหาของหนังหลังได้รับชม
- เนื้อหาหนังโดยรวมยกย่องในน้ำใจคนไทย ควรค่าแก่การไปดู
จากกรณีที่เกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง หลังนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จังหวัดลำปาง ออกมาแสดงความเห็นและรู้สึกไม่สบายใจเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่อง THE CAVE นางนอน
ที่มีการนำเสนอเนื้อหาไม่ตรงกับความจริง ยิ่งมีการเติมแต่งมุกล้อโจมตีระบบราชการไทยจนส่งผลกระทบเกิดความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ จากนั้นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้โพสต์ข้อความออกมาตอบโต้ว่า เป็นเพราะ ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ดูหนังแค่ 3 นาที ไม่ดูให้จบเรื่องจึงไม่ได้รับรู้บทสรุปของหนังเรื่องนี้นั้น
ล่าสุดทางเพจ Drama-addict ได้โพสต์ข้อความเพื่อเป็นการอธิบายและตอบข้อสงสัยของประชาชน ว่าเนื้อหาของหนังเรื่องนี้ เป็นไปตามที่ ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ กังวลใจ และควรค่าแก่การเข้าไปชมหรือไม่ ว่า
ภาพยนตร์เรื่องนี้โดยรวมแล้ว เนื้อเรื่องไม่ได้เป็นไปตามที่ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ วิตกกังวล โดยส่วนใหญ่ยกย่องคนไทยที่แสดงน้ำใจให้แก่กันในยามเกิดปัญหา จะมีเพียงบางส่วนที่หนังจะเสียดสี
ความขลุกขลักในการประสานงาน ขั้นตอนต่าง ๆ ของการถามหาเอกสารตามสไตล์ข้าราชการไทย แต่โดยรวมๆ โทนของหนังไม่ได้ด่าเมืองไทย แต่แขวะระบบข้าราชการนิดๆแต่พองามเท่านั้น ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ควรค่าที่จะเสียเงินเสียเวลาไปดูเพราะถือเป็นบันทึกอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของไทย
รีวิวนะครับ ไม่ต้องบอกว่าสปอยหรือไม่สปอยมั้ง เพราะคนแม่งรู้ตอนจบกันทั้งประเทศละ ถถถถถถถถ และจะตอบข้อสงสัยของหนังเรื่องนี้ที่กำลังเป็นประเด็นกัน
1.หนังมีการบอกว่า base on true story หรือบอกว่าเอามาจากเรื่องจริง?
ในหนังฉากแรกบอกเลยว่า base on true story ดัดแปลงจากเรื่องจริง และมีการดัดแปลงในบางส่วนเพื่ออรรรถรสของผู้ชม2. หนังอวยนักดำน้ำชาวต่างชาติเว่อร์ไปและนำเสนอบทบาทของคนที่ช่วยเหลือที่เป็นคนไทยน้อยไปหรือไม่
ตอบ ไม่เว่อร์ไปครับ คือหนังเรื่องนี้เขาจะโฟกัสไปในหลายส่วน ในองค์หลังๆของหนังถึงจะเน้นไปที่กลุ่มนักดำน้ำในถ้ำ ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็น game changer ของภารกิจถ้ำหลวง
ส่วนในองค์แรกๆจะเน้นเรื่องของคนไทย ซึ่งถ่ายทอดภาพของภาคประชาชน ชาวบ้าน อาสาสมัคร และ จนท ทุกภาคส่วนที่เป็นคนไทยที่มาช่วยกันได้งดงามมากส่วนตัว หนังเรื่องนี้ ถือว่า ยกย่องคนไทยด้วยซ้ำครับ เพราะฉากหลายๆฉากในหนัง ที่แสดงน้ำใจคนไทย มันสวยงามมาก ส่วนตัว ชอบฉากพระที่กำลังเดินบิณฑบาตร เห็นคนขับรถมาขนท่อพญานาค ก็วางบาตรไปช่วยกันขนคนละไม้คนละมือ ฉากนี้คือประทับใจมากๆ
3. หนังล้อเลียนข้าราชการไทยหรือไม่
ไม่ล้อเลียนนะครับ คือตามที่ดูมา เขาชมข้าราชการไทยหลายคนด้วย เช่น จำตอนลุงนักสำรวจถ้ำหลวง (คนที่มีเรื่องกับอีลอน) แกยื่นกระดาษอันเล็กๆที่จดชื่อนักดำน้ำในถ้ำที่เก่งที่สุดในโลก ให้ข้าราชการที่มีหน้าที่บัญชาการติดต่อไป ข้าราชการคนนั้นก็รีบติดต่อทันที โดยไม่อิดออด
แถมยังติดต่อไปด้วยทีท่านอบน้อมสุภาพ แต่หนังจะมีประเด็นเสียดสี ความขลุกขลักในการประสานงาน ขั้นตอนต่างๆ การถามหาเอกสารตามสไตล์ข้าราชการไทย ในช่วงองค์แรกๆของหนัง ซึ่งอันนี้ทำได้เจ็บแสบและหน้าชาฉิบหาย โดยเฉพาะฉากรถของมูลนิธิขนท่อพญานาคเข้ามานี่ โอ้โหหหหหหหห
แต่โดยรวมๆโทนของหนังไม่ได้ด่าเมืองไทย แต่แขวะระบบข้าราชการนิดๆแต่พองาม แต่กระนั้น ก็ไม่มีใครเป็นผู้ร้าย เพราะในมุมของคนที่เรียกหาเอกสารมันก็เข้าใจได้ เพราะสถานการณ์ในตอนแรกมันชุลมุนมาก คนก็แห่กันมาช่วยเหลือ ถ้าให้ทุกคนเข้าพื้นที่ไปหมดก็จะวุ่นวาย แต่กระบวนการจัดการที่ดีก็จะช่วยตรงนี้ได้4.ข้อมูลบิดเบือนไม่ตรงความจริงหรือไม่
เท่าที่ดู พวกรายละเอียดปลีกย่อยแทบทุกอย่าง ตรงกับที่รับรู้ผ่านสื่อเกือบทั้งหมด มีรายละเอียดยิบย่อยเยอะมาก เช่น ตอนเจอหมูป่าตัวเป็นๆในไซท์ที่ตั้งค่ายช่วยเหลือสิบสามหมูป่า ตัวเลขที่ทหารจากต่างประเทศประเมินว่าอาจจะมีคนตายกี่คนหากนำออกมาด้วยวิธีนั้น บลาๆรายละเอียดยิบย่อยเยอะมาก แต่มีบางส่วนที่อาจจะไม่รู้มาก่อน เช่น ฉากที่ลุงท่อพญานาคเถียงกับ จนท อันนี้ก็ไม่รู้นะต้องไปถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เช่น อ.อดิสรณ์ ที่แกเป็นคนเชิญลุงแกมาช่วย แล้ว อ. คนนี้ก็รับบทเป็นตัวเองในหนังด้วย ถถถถถถถ
5. สนุกมั้ย
ถือว่าเป็นสารคดีที่ทำออกมาได้ดีมาก ดูแล้วลุ้นตาม แต่มีข้อเสียเล็กน้อยตรงที่ว่า คนที่จะดูต้องมีพื้นความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ถ้ำหลวงมาบ้าง เพราะเดินเรื่องไวฉิบหาย ปุบปับแป๊บๆเด็กเข้าไปติดในถ้ำละ แต่การนำเสนอเรื่องราวที่มีประเด็นมหาศาลในเวลาจำกัดได้เท่านี้ ถือว่าทำได้ดี6.ใครรับบทนายกวะ โหยเหมือนฉิบหาย ยิ่งตอนฉากโผล่มา คนฮากันทั้งโรง ถถถถถถ กูนี่ขำจนพุงกระเพื่อมเลย
คือเรื่องถ้ำหลวงนี่ ผลลัพท์มันออกมาดีก็จริง แต่เราท่านที่ตามข่าวในช่วงนั้นกันมาตลอดว่า มันมีทั้งเรื่องบวก และเรื่องลบ ผสมๆกันไป เรื่องดีก็มีเยอะ ก็ต้องชื่นชม ส่วนหนังเรืองนี้ ดึงด้านลบบางส่วนของเหตุการณ์นี้มานำเสนอด้วย ไม่ใช่แค่ด้านดีอย่างเดียว
ซึ่งส่วนตัวถือว่า ผู้กำกับมันเมตตาปราณีมากแล้ว เพราะถ้าขุดเรื่องลบๆทุกด้านในช่วงนั้นมาใส่ในหนังด้วยนี่เราอาจจะต้องคลุมปี๊บตอนดูหนังก็เป็นได้ แต่โดยรวมของหนังยังถือว่าเป็นหนังที่ดี และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยอยู่
แนะนำให้ไปดูกัน ก่อนจะออกจากโรงในเร็ววันนี้