ประเด็นน่าสนใจ
- วันนี้มีการประชุมกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ
- โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ให้เริ่มวาระถอดถอน ประธาน กมธ.ป.ป.ช. เป็นวาระแรก
- ที่ประชุมมีมติ 7 ต่อ 2 เสียง ไม่รับพิจารณาเรื่องปลดประธาน กมธ.ป.ป.ช.
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เผยเดินหน้าพิจารณาวาระถอดถอนประธานคณะกรรมาธิการ ที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐเสนอ เป็นเรื่องแรกของวันนี้ แม้ว่านายสิระ จะขอเลื่อนโดยอ้างว่ารอนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เข้ามาเป็นกรรมาธิการ ย้ำการดำเนินการในลักษณะนี้มีเป้าหมายเล่นเกมการเมืองแน่นอน
“นายสิระ เป็นใคร ใครเป็นประธานกันแน่ การบรรจุว่าเรื่องไหนเข้าสู่วาระ หรือไม่เข้าวาระเป็นหน้าที่ของผม เดี๋ยวผมจะเอาเข้าวันนี้วาระแรกเลย แฟร์ๆ ผมก็แฟร์ๆ” พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าว
ส่วนกรณีนายไพบูลย์ ที่ระบุว่าจะมีการเสนอชื่อให้เป็น กรรมาธิการ ป.ป.ช. ในวันนี้ และจะเริ่มปฏิบัติงานได้ในสัปดาห์หน้า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ตามข้อบังคับการประชุมเมื่อกรรมาธิการฯว่างลง เป็นหน้าที่ของประธานคณะกรรมาธิการฯ ในการเสนอชื่อบุคคลมาดำรงตำแหน่งที่ว่าง ส่วนหนังสือลาออกของนายดล เหตระกูล ขณะนี้ได้รับหนังสือลาออกแล้ว แต่ยังไม่พิจารณา เสนอชื่อคนใหม่ให้กับประธานสภาฯ จึงถือว่ายังไม่มีการแต่งตั้ง
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบที่ดิน และการแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จของนางสาวปารีณา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยว่าจะเข้าสู่วาระการประชุมวันนี้ โดยมติวันนี้ อาจออกมาเป็น 2 รูปแบบ แบบแรก อาจรอไว้ก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายให้เรียบร้อยก่อน แต่หากพบว่า เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือนางสาวปารีณา ก็ต้องดำเนินการเร่งตรวจสอบทันที พร้อมให้ประสานไปยังเลขาธิการ ป.ป.ช. ขอบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนางสาวปารีณา ทั้งหมดมาตรวจสอบ เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหา แม้ว่า น.ส.ปารีณา จะเป็น 1 ใน คณะกรรมาธิการก็ตาม
“ไม่เป็นไร เพราะคุณปารีณาเข้ามาเอง ไม่ได้ขอให้เข้ามา หากไม่พร้อมก็ลาออกไป ลูกแมวไม่กลัวเสือหรอก ลูกแมวเพิ่งเกิดใหม่ ก็เลยไม่กลัวเสือ แต่ผมใหญ่กว่าเสืออีก” พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าว
ต่อมาพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ขอให้ที่ประชุมลงมติทันทีโดยที่ประชุมมีมติ 7 เสียง ซึ่งรวมเสียงของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ด้วย ที่ไม่เห็นด้วยที่จะพิจารณาดังกล่าว และมีมติเห็นด้วย เพียง 2 เสียง คือนางสาวปารีณา และนายสิระ ส่วนกรรมาธิการคนอื่นๆ งดออกเสียง