ประเด็นน่าสนใจ
- ผู้เสียหายคริสตจักรฯ รวมตัว 30 คน ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการปกครอง
- คดีพิพาท ที่ดิน อ.ชะอำ มูลค่า 180 ล้าน และคดีลดสวัสดิการสมาชิก 106 ท่านของทั้ง 2 คริสตจักร
ผู้เสียหายของคริสตจักรไมตรีจิต , คริสตจักรแสงสว่างและคริสจักรในเครือจำนวน 30 คน เดินทางมายังรัฐสภาใหม่ สัปปายะสภาสถาน เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อคณะกรรมาธิการการปกครอง ในประเด็นความไม่โปร่งใส 2 ข้อกล่าวหาต่อผู้บริหารสภาคริสตจักรในประเทศไทย ได้แก่ คดีพิพาท ที่ดิน อ.ชะอำ มูลค่า 180 ล้าน และคดีลดสวัสดิการสมาชิก 106 ท่านของทั้ง 2 คริสตจักร และยังจะมีอีกหลายคดีติดตามมาในภายหลัง
ผู้เข้าร้องเรียนเปิดเผยว่า คดีพิพาท ที่ดิน อ.ชะอำ ด้วยเมื่อประมาณกลางปี พ.ศ.2556 มูลนิธิคริสเตียนบริการ (แบ๊บติสท์) “มูลนิธิฯ” ได้มีดำริที่จะพัฒนาที่ดินของมูลนิธิฯ ที่ตำบลบ่อฝ้าย อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีเนื้อที่รวม 22 ไร่ 3 งาน 8 ตารางวา จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมา เรียกว่า “คณะอนุกรรมการพัฒนาบ้านพักมิชชั่นชะอำมูลนิธิคริสเตียนบริการ (แบ๊บติสท์)”
เพื่อดำเนินการสรรหาผู้ลงทุนมาทำการพัฒนาที่ดินดังกล่าว เพื่อนำเงินรายรับมาทำกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิต่อมาคณะอนุกรรมการฯได้มีการประชุม โดยในการประชุมนั้น มีนายทวีศักดิ์ มหชวโรจน์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง เป็นประธานกรรมการมูลนิธิคริสเตียนบริการ (แบ๊บติสท์) และเป็นประธานคณะธรรมกิจคริสตจักร ภาคที่ 12 ของมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทยด้วย เป็นผู้ทำหน้าที่เป็นประธานจัดการประมูลการให้เช่าที่ดินดังกล่าว
ส่วนคริสตจักรไมตรีจิตได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการปกครองสภาผู้แทนราษฎร ได้โปรดพิจารณาดำเนินการตรวจสอบการกระทำ ของนายทวีศักดิ์ มหชวโรจน์ ประธานกรรมการมูลนิธิครสิเตียนบริการ (แบ๊บติสท์)และประธานกรรมการมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย (ตำแหน่งในปัจจุบัน)
และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ถึงฐานะหรือความประพฤติไม่เหมาะสมในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิคริสเตียนบริการ (แบ๊บติสท์) และมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทยให้ด้วย
ทั้งนี้ด้วยเห็นว่า อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อคริสเตียนในประเทศไทย และเป็นการก่อให้เกิดความแตกแยกในกลุ่มคนที่นับถือศาสนาคริสต์อันจะนำมาซึ่งความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศได้ จึงขอไห้โปรดพิจารณาดำเนินการตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามที่เห็นสมควร
และคดีกลั่นแกล้งลดสวัสดิการสมาชิก 106 ท่านของทั้ง 2 คริสตจักร นายเชาวรินทร์ เชื้อสวัสดิ์ ผู้รับมอบอำนาจ ของผู้รับใช้ในสังกัดคริสตจักรภาคที่ 1 จำนวน 106 ท่าน ที่ยังไม่ได้รับการระบุชื่อให้เป็นสมาชิกสวัสดิการรักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน ประจำปี 2019 ทำให้ไม่สามารถใช้สิทธิในการเข้ารักษาพยาบาล ตามโรงพยาบาลที่ผู้รับใช้ดังกล่าวได้เลือกเอาไว้ได้
โดยปกติสภาคริสตจักรในประเทศไทยจะมีสวัสดิการให้ผู้รับใช้พระเจ้า โดยการมีสวัสดิการรักษาพยาบาลผู้ป่วยในซึ่งผู้รับใช้ทั้ง106 ท่านก็ได้รับมาอย่างต่อเนื่อง ในเดือนพฤษจิกายน 2016 ผู้รับใช้เหล่านี้ได้ออกจากภาค12 มาเข้าสังกัดภาค1 ก็ยังได้รับสวัสดิการดังกล่าวมาจนถึงปี2019 นี้ จึงได้รับหนังสือแจ้งว่ายังไม่ได้รับการระบุชื่อให้เป็นสมาชิกสวัสดิการดังกล่าว
คริสตจักรภาคที่ 1 ได้เคยทำหนังสือสอบถามไปยัง เลขาธิการสภาคริสตจักรในประเทศไทย และผู้อำนวยการสำนักงานบุคลากร สภาคริสตจักรฯ ถึงคุณสมบัติ และ เอกสารในการประกอบการพิจารณา
และให้ชี้แจงว่าหากมีการเจ็บป่วยของผู้รับใช้ในสังกัดคริสตจักรภาคที่ 1 จำนวน 106 ท่าน ที่ยังไม่ได้รับการระบุชื่อให้เป็นสมาชิกสวัสดิการรักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน ประจำปี 2019 จะต้องทำอย่างไร และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในกรณีดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการการปกครองสภาผู้แทนราษฎร ได้โปรดพิจาณาดำเนินการตรวจสอบการกระทำ ของมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่กระทำต่อผู้รับใช้ทั้ง 106 ท่าน
ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ซึ่งเป็นสมาชิกของมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ถึงการไม่ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ และดำเนินการที่ขัดต่อวัตถุประสงค์ของมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ให้ด้วยทั้งนี้ด้วยเห็นว่าอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อกลุ่มคริสเตียนในประเทศไทย
หลายคนและหลายกลุ่มบุคคล และเป็นการก่อให้เกิดความแตกแยกในกลุ่มคนที่นับถือศาสนาคริสเตียนแห่งพระเยชูคริสต์ และนำมาซึ่งความเสียหายต่อความมั่นคงแห่งประเทศได้ต่อไป ขอท่านได้โปรดพิจาณาดำเนินการตรวจสอบ และโปรดแจ้ง ให้ข้าพเจ้า ได้ ทราบผลการพิจารณาดำเนินการและผลการตรวจสอบโดยเร็วด้วย