ประเด็นน่าสนใจ
- จ้าของกิจการบริษัท กรุงไทยออดิโอ จำกัด ร้องกองบังคับการปราบปราม
- ถูกพนักงานธนาคารหลอกให้เปิดบัญชีหลายบัญชีรวม 13 ล้าน
ทนายรัชผล ศีริสาคร ได้พา นางอรุณพร หวังสันติพร อาม่าวัย 83 ปี เจ้าของกิจการบริษัท กรุงไทยออดิโอ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตผลงานศิลปินลูกทุ่งดังในอดีต พร้อมด้วยนายวิจิตร และนางวันวิสาข์ หวังสันติพร ลูกชายและลูกสะใภ้
เข้าร้องเรียนที่กองปราบเพื่อขอความเป็นธรรม และติดตามความคืบหน้า คดีถูกพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ปลอมบัญชีธนาคารยักยอกเงินไปรวมเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท
นางอรุณพร หวังสันติพร เป็นลูกค้าประจำของธนาคารแห่งหนึ่งมานาน เก็บเงินฝากตั้งแต่สมัยสาวๆ ฝากเงินจำนวนมาก หลายบัญชี จนเป็นลูกค้า VIP ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ทุกครั้งเวลาไปธนาคาร ธนาคารจะส่งพนักงานมาดูแลเป็นประจำ ในช่วงหลัง ได้ น.ส.สุปรียา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารในขณะนั้น เป็นผู้ดูแลจนอาม่าไว้ใจ
หลังจากนั้น น.ส.สุปรียา ย้ายไปอยู่สาขา ถ.ตากสิน ด้วยความไว้วางใจที่ใช้บริการมานานอาม่าจึงตามไปฝากเงินอีก 8 บัญชี รวมทั้งหมด 11 บัญชี วงเงินรวม 13,550,000 บาท
นางวันวิสาข์ ลูกสะใภ้ผู้เสียหายเปิดเผยว่า คุณแม่ได้นำเงินไปฝากกับธนาคารแห่งนี้มานานกว่า 40 ปี จนเป็นลูกค้า VIP ต่อมาได้รู้จักกับ น.ส.สุปรียา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารในขณะนั้น ช่วงปี 2560 หญิงดังกล่าวได้ย้ายไปอยู่ที่ธนาคารสาขาตากสิน ได้ชักชวนให้ย้ายบัญชีมาที่สาขาดังกล่าว อ้างว่าเพื่อความสะดวกในการดูแล ทางคุณแม่ก็ไว้วางใจจึงได้โอนเงินมาฝากที่สาขาดังกล่าว
น.ส.สุปรียา อ้างว่า แต่ละบัญชีเป็นการลงทุน ให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกัน บางบัญชีได้ดอกเบี้ยถึง 5.5% มาภายหลังว่าได้ออกสมุดบัญชีปลอมให้ ต่อมาเมื่อต้นปี 2561 ผู้จัดการธนาคารได้โทรมาแจ้งว่า ผู้เสียหายทำบัญชีเงินฝากตกไว้ในธนาคาร ทั้งที่บัญชีของตนเองก็ยังอยู่กับตัว จึงไปตรวจสอบพบว่า บัญชีดังกล่าว เปิดในนามของคุณแม่จริงแต่ลายเซ็นต์เบิกถอนเป็นลายเซนต์ปลอม
ท้ายที่สุดช่วงเดือนมีนาคม 2561 ธนาคารได้แจ้งว่า พนักงานสาวทุจริตเอาเงินลูกค้าไป 4-5 รายแล้ว แต่อาม่าเป็นผู้เสียหายที่เสียเงินเยอะสุด อาม่าได้จึงไปแจ้งความตั้งแต่ปี 2561 แต่คดียังไม่คืบ โดยพนักงานสอบสวนระบุว่า คดีอยู่ระหว่างการตรวจสอบเปรียบเทียบลายเซ็นต์
ปัจจุบัน น.ส.สุปรียา ถูกขังอยู่ในคดีอื่นๆ อาม่า ได้ไกล่เกลี่ยหลายรอบ จนธนาคารยอมคืนเงินมาให้ เป็นเช็คลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 จำนวน 10.075.629.46 บาท
ส่วนที่เหลือ 3.474,372 บาท ธนาคารให้ไปฟ้องเอา แต่ไม่สามารถไปฟ้องได้ เพราะต้องรอพยานหลักฐานจากคดีอาญาให้เสร็จสิ้นก่อน แต่คดีอาญาผ่านมา 1 ปีแล้ว ยังไม่ได้ข้อสรุปจึงเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม