ข่าวสดวันนี้ สคบ.

ร้อง สคบ. ซื้อบ้านราคาเกือบ 10 ล้านบาท เจอปัญหาโครงหลังคาบกพร่อง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 ต.ค. 62 ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ) ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ทนายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม พานายพิชัย…

Home / NEWS / ร้อง สคบ. ซื้อบ้านราคาเกือบ 10 ล้านบาท เจอปัญหาโครงหลังคาบกพร่อง

ประเด็นน่าสนใจ

  • ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม พาเจ้าของบ้านที่ซื้อบ้านจากโครงการดังราคาเกือบ 10 ล้านบาท แต่มีปัญหาโครงหลังคาบกพร่อง
  • ผู้เสียหายเข้าร้อง สคบ.เพื่อขอความช่วยเหลือ
  • เจ้าตัวต้องการเจรจาเพื่อเปลี่ยนบ้านหลังใหม่

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 ต.ค. 62 ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ) ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ทนายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม พานายพิชัย หรือ แจ๊คกี้ ธรรมพิพัฒน์ อายุ 35 ปี ผู้เสียหายที่ซื้อบ้านหรู โครงการดัง ราคา 8.2 ล้านบาท แต่เมื่อเข้าอยู่อาศัยพบว่า ระบบสัญญาณกันโขมยใช้การไม่ได้ โครงสร้างหลังคาชำรุด หลายจุด มีเสียงดังตลอด เสี่ยงต่อการถล่ม

ทั้งนี้ผู้เสียหายระบุว่า ตนมีลูกเล็ก รู้สึกไม่ปลอดภัย ประกอบกับเจ้าของโครงการไม่ดูแลอย่างเป็นธรรม จึงมาขอความช่วยเหลือจาก สคบ. ขอให้ประสานงานเจ้าของโครงการมารับผิดชอบ รวมถึงขอให้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบว่าโครงสร้างบ้านหลังนี้เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยหรือไม่อย่างไร

นายพิชัย หรือแจ๊คกี้ กล่าวว่า แรกเริ่มเดิมทีตนอาศัยอยู่คอนโด แต่เมื่อภรรยาตั้งท้องเริ่มมีลูกคนแรก ตนวางแผนชีวิตครั้งใหญ่เพื่อครอบครัวด้วยการซื้อบ้านเดี่ยว โดยตัดสินใจเลือกจากบริษัทที่มีชื่อเสียง ยอมชื้อบ้านราคาแพง คิดว่าคงจะได้บ้านที่มีคุณภาพ และการบริการที่ดีเป็นรากฐานของครอบครัวในอนาคต

แต่ตนซื้อบ้านเดี่ยวใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นบ้านแบบ Luxury Nordic ขนาด 60 ตรม.ในราคา 8.2 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่เลือกแบรนด์นี้ เพราะตนมีความเชื่อถือว่าเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ของเมืองไทย คาดหวังว่าบ้านที่ได้จะมีคุณภาพ แข็งแรง ปลอดภัยให้กับครอบครัวของตนได้

ทั้งนี้ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ในชีวิตตนคิดว่าคงจะมีปัญญาซื้อบ้านได้แค่หลังเดียว และตั้งใจซื้อไว้ให้เป็นหลักประกันถึงลูกที่กำลังจะเกิดออกมาดูโลกใบนี้ ตอนนี้ลูกตนอายุได้ 7 เดือนแล้ว ตนคิดว่าจะอาศัยอยู่บ้านนี้ไปจนแก่เฒ่า ความรู้สึกเชื่อมั่นในแบรนด์นี้มันหมดสิ้นไปแล้ว โดยตั้งแต่ซื้อบ้านใหม่มาโอนเสร็จ 3 ธ.ค.2560 ได้บิ้วอินตกแต่งภายในเพิ่งเข้าอยู่จริงเมื่อวันที่ 8 เม.ย.62 บ้านตนก็มีแต่เรื่องต้องซ่อมต้องแก้ ไม่จบไม่สิ้น

ทั้งนี้ตนเพิ่งเข้าอยู่ได้เพียง 5 เดือนกว่าและตอนนี้ตัดสินใจจะพาลูกเล็กและภรรยาย้ายออกไม่กล้าอยู่บ้านหลังนี้แล้วเพราะทุกคืนนอนผวาหลับไม่สนิท ทำไมเหตุการณ์แบบนี่ต้องเกิดกับตนและครอบครัวด้วย

นอกจากนี้ปัญหาใหญ่ที่พบคืออันดับแรก ระบบกันขโมยใช้ไม่ได้ทั้งหลัง ทุกจุดต้องแก้ใหม่ทั้งหมดต้องเลื่อยเปิดฝ้าเลาะวงกบหน้าต่าง กรีด Wallpaper ช่างเหยียบฝ้าและฉนวนกันความร้อนเสียหายหลายจุด (โครงการมาเก็บซ่อมแล้วภายหลังเข้าอยู่แต่ทำให้ภายในบ้านช้ำเสียเวลาแก้หลายรอบ และขาดงานมาคุมเองตลอด) ส่วนเรื่องระบบกันขโมยถึงแม้จะเป็นผลจากหมูบ้านไม่ทำการ QC ก่อนส่งมอบ แม้แก้ไขเยอะ บ้านช้ำแต่ตนพอทนเพราะคิดแล้วว่าไม่ได้กระทบกับโครงสร้างและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

แต่สิ่งที่รับไม่ได้คือปัญหาระดับโครงสร้างหลังคาชำรุด เกือบทั้งหลัง เหล็กหลายชิ้นไม่ได้เชื่อมหลายชิ้นขาดบางชิ้นเอียง ใช้เศษเหล็กมาต่อรอยเชื่อมฉีกและเป็นรูรอยเชื่อมเป็นสนิมรอยเชื่อมส่วนใหญ่ไม่ถูกมาตรฐาน เชื่อมไม่เต็มเชื่อมเพียงแตะไว้ ข้อบกพร่องกระจายเป็นวงกว้าง เกือบทั้งโครงสร้างหลังคา ปัญหานี้พบตั้งแต่เข้าอยู่เดือนแรก แต่นับเฉพาะแจ้งโครงการเป็นทางการตอนนี้ใช้เวลามากว่า 3 เดือนแล้ว

จุดต้นเหตุของเสียงคือพบความผิดปกติของรอยเชื่อมกระจายเกือบทั่วใต้หลังคาตนมีความรู้สึกว่าพนักงานในบริษัทชื่อดังนี้ พยายามปกปิดปัญหาที่แท้จริง ไม่จริงใจในการแก้ปัญหา และไม่มีความเป็นมืออาชีพ จนเจ้าของบ้านต้องมาไล่เจอต้นตอของปัญหาของโครงสร้างบ้านที่หมกเม็ด ซ่อนอยู่ภายใน ด้วยตัวเองที่ผ่านมาตนขาดงาน เสียเวลามาก เสียเงินส่วนตัวเพื่อซื้ออุปกรณ์ในการไล่หาสาเหตุของการเกิดเสียงที่ผิดปกติ แต่กลับต้องตกใจมาก

ทั้งนี้เมื่อเห็นสภาพโครงสร้างหลังคาของบ้านที่เพิ่งสร้างใหม่ ด้วยบริษัทชื่อดังราคาหลังละเกือบ 10 ล้านบาท ชำรุดบกพร่องขนาดนี้ไม่คิดว่าการตัดสินใจซื้อบ้านหลังแรกเพื่อเริ่มต้นชีวิตครอบครัว กับบริษัทใหญ่และมีชื่อเสียงเป็นลำดับต้นๆในครั้งนี้ จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตทุกวันนี้เสียงดังแป๊กๆ ก็เพิ่มมากขึ้นน่าเชื่อว่าจะมาจากความไม่แข็งแรงของโครงสร้างหลังคา

“คนธรรมดาคนนึงอย่างผมชีวิตนี้จะมีปัญญาซื้อบ้านได้สักกี่หลัง”เครียดมากบางวันนอนไม่หลับ ไม่มีจิตใจทำงานทุกวันจะกังวล หวาดระแวง กลัวว่าหลังคาจะพังถล่มลงมาใส่ครอบครัว ลูกเล็ก 7 เดือน และภรรยาผิดหวังมากเพราะได้บ้านที่คุณภาพแย่ โครงสร้างหลังคาไม่มั่นคง เร่งสร้างขาย หลุด QC ไม่เหมือนกับที่บริษัทโฆษณาไว้อย่างสวยหรู

ตอนนี้ตนตัดสินใจจะพาลูกเล็ก 7 เดือน และภรรยาย้ายออกจากบ้าน ไม่กล้าอยู่อาศัยแล้วเพราะโครงสร้างหลังคาไม่มั่นคงแข็งแรง เหล็กเชื่อมไม่ดี บางชิ้นที่ไม่เชื่อมและชำรุดอยู่บริเวณเหนือห้องนอน กลัวว่าโครงสร้างหลังคาอาจวิบัติถล่มลงมาหรืออาจมีชิ้นส่วนเหล็กร่วงหล่นลงมา และทุกวันขณะพักอาศัยจะมีเสียงเหล็กหลังคาลั่นอยู่บริเวณเหนือหัวเกือบทั้งวันและรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งสงสารลูกเล็กที่ต้องนอนสะดุ้งร้องไห้กลางดึกหลายครั้งจากเสียงลั่นตอนกลางคืน

 

อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านหรือที่กำลังจะซื้อบ้านจากบริษัทชื่อดังนี้ โดยเฉพาะแบบบ้านทรงใหม่ “Luxury Nordic Style” ขอให้ตรวจสอบโครงสร้งหลังคาด้วยตัวเอง นอกจากนี้ อยากจะให้หน่วยงานราชการที่มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญงานมาตรวจสอบดูให้ด้วยว่าโครงสร้างหลังคาแบบนี้อยู่อาศัยแล้วมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน

ส่วนทางด้านนายรัชพล ทนายความ กล่าวเสริมว่า ปกติการซื้อขายสินค้าเมื่อมีความชำรุดบกพร่อง ผู้ขายจะต้องมีความรับผิดชอบสินค้านั้น กรณีนี้ผู้ขายยังรับผิดชอบไม่เพียงพอ ผู้ซื้อต้องการซื้อบ้านใหม่เพื่อเข้าอยู่อาศัย ไม่ใช่ซื้อมาซ่อม แต่ปัจจุบันการเข้าอยู่อาศัยต้องเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน อยากให้ผู้ขายออกมารับผิดชอบมากว่านี้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ สคบ. รับเรื่องจากนายพิชัย แล้วจะเป็นคนกลางประสานให้ทาง SC Assat เจ้าของโครงการมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้ร้องในกำหนดเวลา 30 วันต่อไป