เพจ ไทยคู่ฟ้า ซึ่งเป็นเพจประชาสัมพันธ์การทำงานของรัฐบาล ได้มีการส่งต่อภาพอินโฟกราฟฟิคเปรียบเทียบความเร็วรถในระดับต่างๆ เพื่อให้เห็นว่า ความเร็วระดับนั้นหากเทียบจากการตกตึกจะเท่ากับการตกตึกชั้นไหน
ซึ่งการทำภาพดังกล่าวถูกทำออกมา เพื่อให้ผู้ใช้รถตระหนักถึงความปลอดภัยเมื่ออยู่บนท้องถนน จะได้มีสติอยู่ตลอดเวลา และป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นเหมือนกับเหตุถกระบะขนนักเรียนอาชีวะกลับจากงานเลี้ยงส่งพลิกคว่ำจนมีผู้เสียชีวิตไป 10 กว่าคน สร้างความเศร้าโศกเศร้าเสียใจให้กับผู้ปกครองและญาติมิตรอยู่ในขณะนี้ ภายใต้หัวข้อ ยิ่งเร็วยิ่งเสี่ยง
โดยก่อนออกสตาร์ทรถต้องมีสติ ไม่ดื่มเหล้า ไม่โทรศัพท์ขณะขับขี่ ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ที่สำคัญควรพักผ่อนให้เพียงพอ ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากการวูบเพียงชั่วขณะระหว่างขับรถ
อุบัติเหตุบนท้องถนนจากการ “ขับรถเร็ว” คือสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่น หากผู้ขับขี่ดื่มสุราก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุมากขึ้น เพราะจะทำให้สมรรถนะในการขับขี่ลดลง อาจเผลอเร่งความเร็วมากเกินไปจนสูญเสียการควบคุมยานพาหนะได้ ดังกรณีอุบัติเหตุรถกระบะชนเสาไฟฟ้าแล้วพลิกคว่ำจนทำให้มีนักศึกษาเสียชีวิตถึง 13 ราย หากลองเปรียบเทียบรถที่เกิดอุบัติเหตุในความเร็วที่ต่างกันจะพบว่า “ยิ่งเร็ว ยิ่งเสี่ยง”
- หากรถวิ่งด้วยความเร็ว 60 กม./ชม. จะเท่ากับรถที่ตกจากที่สูง 14 เมตร ประมาณ ตึก 5 ชั้น
- หากรถวิ่งด้วยความเร็ว 80 กม./ชม. จะเท่ากับรถที่ตกจากที่สูง 25 เมตร ประมาณ ตึก 8 ชั้น
- หากรถวิ่งด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. จะเท่ากับรถที่ตกจากที่สูง 39 เมตร ประมาณ ตึก 13 ชั้น
- หากรถวิ่งด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. จะเท่ากับรถที่ตกจากที่สูง 56 เมตร ประมาณ ตึก 19 ชั้น
อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเพราะนั่นหมายถึงการสูญเสียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะในร่างกาย ชีวิต ทรัพย์สินทั้งของตนเองและคนอื่น ๆ ที่ต้องมาร่วมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความประมาทของผู้ขับขี่
ดังนั้นก่อนออกสตาร์ทรถต้องมีสติ ไม่ดื่มเหล้า ไม่โทรศัพท์ขณะขับขี่ ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดเพราะยิ่งเร็วยิ่งเสี่ยงทั้งชีวิตและผิดกฎหมาย ที่สำคัญควรพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อไม่ให้เกิดอาการวูบขณะขับรถ