กระบะ 13 ศพ รถกระบะพลิกคว่ำ อุบัติเหตุ

คนเจ็บเหตุกระบะพลิกคว่ำดับ 13ศพ เผยคนขับซิ่งหนีวัยรุ่นเจ้าถิ่น-กลัวมีเรื่อง

ความคืบหน้าอุบัติเหตุรถกระบะพลิกคว่ำ ทำให้นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษเสียชีวิต รวม 13 ศพ และมีผู้บาดเจ็บ 5 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 กันยายน บริเวณถนนกิ่งแก้ว ปากทางเข้าซอยกิ่งแก้ว 21 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น…

Home / NEWS / คนเจ็บเหตุกระบะพลิกคว่ำดับ 13ศพ เผยคนขับซิ่งหนีวัยรุ่นเจ้าถิ่น-กลัวมีเรื่อง

ประเด็นน่าสนใจ

  • สาวผู้บาดเจ็บ จากเหตุรถกระบะพลิกคว่ำ จนมีผู้เสียชีวิต 13 ราย เหตุเกิดบริเวณถนนกิ่งแก้ว ให้ปากคำกับตำรวจ
  • ระบุไปดูคอนเสิร์ต ที่ ซอยกิ่งแก้ว 2 ช่วงกำลังไปขึ้นกลับเจอถูกวัยรุ่นเจ้าถิ่นหาเรื่อง จึงต้องซิ่งรถหลบหนี
  • เบื้องต้นตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาคนขับรถกระบะ ข้อกล่าวหาขับรถด้วยความประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บสาหัส และทำให้ทรัพย์สินของราชการเสียหาย

ความคืบหน้าอุบัติเหตุรถกระบะพลิกคว่ำ ทำให้นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษเสียชีวิต รวม 13 ศพ และมีผู้บาดเจ็บ 5 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 กันยายน บริเวณถนนกิ่งแก้ว ปากทางเข้าซอยกิ่งแก้ว 21 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านเพิ่มเติม : คลิปนาที กระบะ นศ.อาชีวะ ประสบอุบัติ เสียชีวิต 13 ศพ – อัปเดตรายชื่อ)

ล่าสุด พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้บาดเจ็บคือ น.ส.ยุพิน กรึนกระโทก ให้การว่าได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปดูคอนเสิร์ตหมอลำ ที่ซอยกิ่งแก้ว 2 โดยจอดรถจักรยานยนต์ไว้ที่ซอย 1 ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน

เมื่อเข้าไปในงานได้เจอกับนายนิตยา สุขจันทร์ อายุ 27 ปี คนขับรถกระบะโดยบังเอิญ หลังจากที่ออกจากลานคอนเสิร์ต นายนิตยาและพวกได้มาส่งที่ลานจอดรถจักรยานยนต์ซอย 1 และได้เจอกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่น 5-6 คน ยืนอยู่ และกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นได้ใช้ขวดปามาที่ลานจอดรถแต่ไม่โดนใคร นายนิตยา จึงบอกให้ทุกคนขึ้นรถเพราะเกรงว่าจะมีเรื่องกัน

ซึ่งระหว่างทางได้มีรุ่นน้องได้ทุบกระบะให้จอด แต่นายนิตยากลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายจึงได้ขับรถด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีรถแท็กซี่ขับช้าขวางอยู่ด้านหน้าเลนซ้าย จึงได้หักพวงมาลัยรถมาด้านขวาและพยายามจะหักพวงมาลัยกลับ แต่รถได้ลอยตัวหน้ายกขึ้นจึงทำให้รถเสียหลักและหมุนไปชนกับเสาไฟและเสาไฟส่องสว่าง โดยน.ส.ยุพิน ที่นั่งอยู่ในแค็บได้กระเด็นออกมาและหมดสติไป

ส่วนนายนิตยา ยังให้การไม่ได้ จึงต้องรอสอบปากคำและตั้งข้อกล่าวหาขับรถด้วยความประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเป็นเสาไฟฟ้าขนาด 12 เมตร และเสาไฟส่องสว่างหักเสียหาย