หนีคดี เผาทั้งเป็น

หนุ่มหนีคดี 17 ปี ไม่รอด หลังก่อเหตุเผาแฟนสาวทั้งเป็น

ที่ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารใหม่กองบังคับการปราบปร พันตำรวจเอกเนติ วงษ์กุหลาบ ผู้กำกับ 5 กองบังคับการปราบปราม แถลงผลการจับกุมนายคำรณ สมญาพิทักษ์ อายุ 39 ปี…

Home / NEWS / หนุ่มหนีคดี 17 ปี ไม่รอด หลังก่อเหตุเผาแฟนสาวทั้งเป็น

ประเด็นน่าสนใจ

  • ตำรวจกองปราบปรามจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุทำร้ายร่างกายแฟนสาว หลังโมโหแฟนที่บอกเลิก จึงทุบตีและจุดไฟเผาคาห้องพักที่จังหวัดกระบี่ หนีคดีมานานกว่า 17 ปี
  • แม่เหยื่อร้องทุกข์ เมื่อประมาณต้นปี 2562

ที่ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารใหม่กองบังคับการปราบปร พันตำรวจเอกเนติ วงษ์กุหลาบ ผู้กำกับ 5 กองบังคับการปราบปราม แถลงผลการจับกุมนายคำรณ สมญาพิทักษ์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในข้อหา“ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน

หลังจับกุมได้ที่ตลาดเทศบาลหนองหญ้าไซ ม.5 ต.หนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากเมื่อปี 2545 นางสาววรรณา ศรียาไพ อายุ 20 ปี (อายุของผู้เสียหายขณะนั้น) ซึ่งในขณะนี้อายุ 37 ปี โดยช่วงเวลาเกิดเหตุผู้เสียหายเป็นนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยพาณิชย์ชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช ได้ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายโดยใช้ของแข็งตีเข้าที่กกหูซ้าย และใช้น้ำมันราดจุดไฟเผาทั้งเป็นคาห้องพัก หลังถนนสายอ้อมค่ายวชิราวุธ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้ผู้เสียหายมีสภาพบาดแผลถูกไฟเผาตามตัว และบาดเจ็บสาหัส

ปัจจุบันเหยื่ออายุ 37 ปี มีสภาพนอนติดเตียง

ต่อมาจากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ที่ลงมือทำร้าย ก็คือนายคำรณ สมญาพิทักษ์ หรือบังหนิด อดีตคนรัก พนักงานสอบสวนจึงเสนอต่อศาลขออนุมัติออกหมายจับ แต่ในขณะนั้นพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนสั่งฟ้องไม่ทัน ทำให้ผู้ต้องหาถูกปล่อยตัว และหลบหนียาวนานกว่า 17 ปี

จนกระทั่งเมื่อประมาณต้นปี 2562 นางกอลิเย๊าะ ศรียาไพ อายุ 63 ปี มารดาผู้เสียหาย ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม จ. กระบี่ ให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาเนื่องจากคดีผ่านมานานกว่า 17 ปี

และใกล้หมดอายุความ ประกอบกับ ปัจจุบัน นางสาววรรณา ยังลุกเดินไม่ได้ ต้องมีสภาพนอนติดเตียง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้สืบทราบว่า นายคำรณ ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่กับญาติ ที่จังหวัดสุพรรณบุรี จนมีภรรยาและลูกชาย 1 คน จึงได้วางแผนเข้าจับกุม จนพบผู้ต้องหาอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมนำตัวมาที่กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม เพื่อทำบันทึกจับกุม และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในชั้นจับกุม

ขณะที่แม่ของผู้เสียหายได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่กองปราบที่ให้ความช่วยเหลือ จนทำให้จับกุมคนร้ายในครั้งนี้ได้สำเร็จ